'พีระพันธุ์' จี้ทุกภาคส่วนเร่งศึกษา - พัฒนาด้านพลังงาน รับมือภาวะโลกร้อน

'พีระพันธุ์' จี้ทุกภาคส่วนเร่งศึกษา - พัฒนาด้านพลังงาน รับมือภาวะโลกร้อน

“พีระพันธุ์” เร่งทุกภาคส่วน ศึกษา เข้าใจ พัฒนาด้านพลังงาน เพื่อรับมือภาวะโลกร้อนไปพร้อมกับการกำหนดราคาที่เป็นธรรม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมเป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 20 (วพน.20) ใจความตอนหนึ่งว่า พลังงานมีความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของประชาชน ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซ ซึ่งปัจจุบันการใช้พลังงานทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ยังคงเผชิญกับวิกฤติด้านราคาพลังงาน ทั้งจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังไม่มีข้อยุติ

ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญกระทบข้อจำกัดในการผลิต และจัดหาพลังงาน และการเข้าถึงพลังงาน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นภาวะโลกร้อน ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยให้ความสำคัญและเร่งการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น การบริหารจัดการ และใช้พลังงานอย่างยั่งยืน จึงเป็นวาระสำคัญของโลกที่ครอบคลุมใน 3 มิติ คือ 1) Security คือ มีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ 2) Affordability คือ ราคาพลังงานที่เข้าถึงได้ และเป็นธรรม และ 3) Environment คือ พลังงานที่ใช้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งวาระเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราทุกคนทำได้โดยร่วมสนับสนุนนโยบายการอนุรักษ์พลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน เพื่อมีส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

ในระยะยาว ทิศทางพลังงานของประเทศยังคงต้องให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ได้ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ให้ได้ภายในปี ค.ศ.2050 และ Net Zero ในปี ค.ศ.2065  รวมทั้งการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน การแก้กฎหมายให้ราคาพลังงาน มีความยุติธรรม ประชาชนเข้าถึงได้ 

โดยผู้เข้าอบรม วพน. รุ่นที่ 20 นี้ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กร และหน่วยงานต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญที่จะนำความรู้ที่ได้มาผลักดัน และสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างยั่งยืน และนำพาประเทศเปลี่ยนแปลงสู่ Net Zero Emissions ในราคาที่เป็นธรรมไปพร้อมกันได้

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์