UNGCNT จับมือกับ NSM  ดันเด็กไทยหัวใจ SI ขับเคลื่อนความยั่งยืน

ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่เศรษฐกิจยุค 5.0 ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงาน และลดความผิดพลาดจากกระบวนการทำงาน เพราะคงปฎิเสธไม่ได้ว่าทุกการดำเนินชีวิต กิจกรรมต่างๆ ที่ทำในชีวิตประจำวันล้วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งสิ้น

เมื่อโลกเข้าสู่ยุคSociety 5.0 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมมากที่สุด คือ การใช้เทคโนโลยีบนพื้นฐานของความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อมนุษย์ การพัฒนาเตรียมพร้อมทักษะให้แก่มนุษย์จึงมีความสำคัญอย่างมาก ต้องผลักดันให้เด็กและเยาวชนไทยมีหัวใจ ‘Sustainable Intelligence (SI)’ ซึ่งเป็นยุคที่มนุษย์และเทคโนโลยีผสมผสานกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

UNGCNT ผนึกพลัง 27 องค์กรสมาชิก 8 UN Agencies ปลุกพลัง Sustainable Intelligence

UNGCNT ผนึกพลังสมาชิก ปั้นคน SI เปลี่ยนผ่านความยั่งยืน สู่ยุค 5.0

ปลุกพลัง SI จุดประกายความยั่งยืนเยาวชน

จากเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs : Sustainable Development Goals)) 17 ข้อ ขององค์การสหประชาชาติซึ่งเป็นกรอบการพัฒนาของโลก เพื่อร่วมกันบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเป็นการต่อสู้กับความท้าทายในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ถูกยกระดับขึ้นเป็นสีแดง (Code Red Climate Change) โรคระบาดและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation)

รวมถึงการพัฒนาทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การสื่อสารที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องมือและกระบวนการสื่อสารด้วยวิธีการและช่องทางใหม่ๆ

สถานการณ์ SDGs ล่าสุด จากรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Report) โดย Sustainable Development SolutionsNetwork (SDSN) พบว่า โดยเฉลี่ยทั่วโลก มีเพียง 16% ของเป้าหมายย่อย SDGsเท่านั้นที่จะสามารถบรรลุได้ในปี 2573 ขณะที่อีก 84%พบว่ามีข้อจำกัดและไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT : UN Global Compact Network Thailand) ที่มีภาคเอกชนเป็นสมาชิกกว่า 100 แห่ง ได้ผนึกพลัง 27 องค์กรสมาชิก 8 UN Agencies และเครือข่าย จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หวังปลุกพลัง SI Sustainable Intelligence จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจ ให้การเรียนรู้กับนักเรียน นักศึกษา เห็นความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขับเคลื่อนความยั่งยืน

UNGCNT ลงนาม อพวช.ขับเคลื่อนความยั่งยืนรับยุค5.0 

วันนี้ (21 ส.ค.2567) ที่เมืองทองธานี UNGCNT  ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)  หรือ NSM ประกาศร่วมกันจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อเนื่อง 3 ปี  หวังเด็กไทยใช้พลัง SI  “Sustainable Intelligence” ขับเคลื่อนความยั่งยืน รับยุค 5.0  ดัน SDGs ให้ถึงเป้าหมายปี 2030

โดยมี ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการ NSM กล่าวว่า  ความร่วมมือครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเสริมสร้างประสบการณ์ความรู้ให้กับเยาวชนไทย ผ่านกิจกรรมและนิทรรศการที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอแนวคิดเรื่องความยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ

“กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และกระตุ้นให้เยาวชนนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งบทบาทหน้าที่ของอพวช.จะมุ่งสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่ทุกคนในสังคม ให้รู้ว่าวิทยาศาสตร์มีประโยชน์ เป็นเรื่องง่าย ใกล้ตัว และช่วยทำให้โลกใบนี้พัฒนาขึ้น ยั่งยืนขึ้น และสวยงามมากขึ้น"ผศ.ดร.รวิน กล่าว

อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายของ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจและเสริมประสบการณ์ความรู้ให้กับเยาวชนไทย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาทักษะ และกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์อย่างสร้างสรรค์ นำไปสู่การต่อยอดให้กับประเทศ อันจะก่อให้เกิดการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ให้กับประเทศ

ผศ.ดร.ระวิน กล่าวต่อว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ทั้ง 2 หน่วยงานมีเป้าหมายเดียวกันในการช่วยส่งเสริม สร้างความตระหนักให้แก่เด็กและเยาวชน และโลกใบนี้  ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จะเป็นก้าวแรกของการสร้างความยั่งยืนร่วมกัน

ทั้งนี้  การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

 1.เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้และความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประชาชน

 2.เพื่อจัดให้มีโครงการแลกเปลี่ยนและบุคลากรของฝ่ายบริหาร เจ้าหน้าที่ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และนักวิจัยที่เกี่ยวข้องในการกำกับและจัดการกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง

3.เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์และแนวปฏิบัติด้านเทคโนโลยีและเทคนิคด้านวิทยาศาสตร์และการพัฒนาที่ยั่งยืน

4.เพื่อส่งเสริมการวางแผนร่วมกัน โครงการวิจัย การสัมมนา สัมมนาและกิจกรรมพิเศษ

5.เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเอกสารสำคัญเพื่อการเผยแพร่วัฒนธรรมทางวิทยาศาสตร์และการเผยแพร่วิทยาศาสตร์

6.เพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือในกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะพิจารณาหารือกันในอนาคต 

UNGCNT เชื่อเด็กและเยาวชนสร้างโลกให้น่าอยู่ได้

ความตั้งใจของ UNGCNT ต้องการยืนหยัดเรื่องความยั่งยืน ภายใต้ความเชื่อว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนอนาคต มีความสามารถในการปรับตัวอันนำไปสู่การขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืน สร้างโลกนี้ให้น่าอยู่ได้  คือ “เด็กและเยาวชน” ที่ได้รับประสบการณ์ มีโอกาสเข้าถึง เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่สามารถจับต้องได้ รวมถึงแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน

นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หรือ UNGCNT ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เยาวชนเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีพลังและเป็นกำลังสำคัญของชาติและของโลกที่จะร่วมสร้าง สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน อันเป็นสังคมที่ทุกคนใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย

อาทิ AI บนพื้นฐานของจริยธรรม คุณธรรม และหลักการความยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บันทึกความเข้าใจนี้เป็น Roadmap ที่สำคัญที่ใช้ “ขับเคลื่อน” การต่อยอดความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 

การ “สื่อสาร และเผยแพร่” องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์  เพื่อปลูกฝัง “วิถีชีวิตแบบนักวิทยาศาสตร์” ที่ “คน” รู้จักตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบ ลงมือทำ ร่วมมือกัน แก้ไขปัญหาที่ตั้งอยู่บนฐานของข้อมูลและหลักการเหตุผล เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่เราทุกคน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“ภาคเอกชน” มีเครื่องมือจำนวนมาก และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เป็นประสบการณ์จริง เป็นศูนย์การเรียนรู้แก่เยาวชนได้ แต่ภาคเอกชนค่อนข้างปิด  ในฐานะ UNGCNT เป็นแพลตฟอร์มที่มีภาคเอกชนจำนวนมากที่พร้อมเข้าร่วม และเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้

นายศุภชัย กล่าวต่อว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายให้แก่องค์กรทั้งภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีศักยภาพในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ขนาดย่อย เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนควบคู่ไปกับ อพวช.  และ UN ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันในเรื่องของความยั่งยืนที่เป็นภาพรวมของโลก

เราหวังว่าจะเป็นกำลังในการขับเคลื่อนความยั่งยืนทั้งในไทยและระดับภูมิภาค สร้างประสบการณ์  เป็นแพลตฟอร์มให้เด็กและเยาวชนได้เข้าถึง ค้นคว้าวิจัย พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ และแรงบันดาลใจ ให้เด็กและเยาวชนมีกรอบความคิด ในเรื่องการค้นคว้าวิจัย ค้นหาสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อสังคม และโลกของเรา

“UNGCNT จะไม่หยุดยั้งที่จะระดมกำลัง ความสามารถต่างๆ สนับสนุนการปฏิรูประบบการศึกษา สร้างเยาวชนไทยที่มีหัวใจ Sustainable intelligence เพื่อร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืน” นายศุภชัย กล่าว

นอกจากนั้น ปีนี้ UNGCNT ได้ร่วมกับ 27 องค์กรสมาชิก และ 8 หน่วยงานสหประชาชาติ จัดนิทรรศการ “THE GLOBE VENGERs” #ฮีโร่พิทักษ์ความยั่งยืน พื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567

โดยยกขบวนนวัตกรรมเปลี่ยนโลกจากองค์กรสมาชิกที่ตอบโจทย์ SDGs ให้บรรลุเป้าหมายปี 2030 ตามประกาศสหประชาชาติ  มาจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่  อาทิ “Floating Solar” เทคโนโลยีทุ่นโซล่าร์ลอยน้ำ เพิ่มพื้นที่ผลิตพลังงานสะอาด จาก IRPC “กระบวนการผลิตอาหารจากพืช” ให้มีรสสัมผัสไม่ต่างจากอาหารจากเนื้อสัตว์ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดย NRF

“Agri Tech” โดรนอากาศยานไร้คนขับ “Health Tech Magic Mirror” กระจกสุดล้ำวิเคราะห์สุขภาพ ผ่านทางใบหน้า ด้วยนวัตกรรม AI Computer Vision จาก C.P. GROUP “BEAUTY TECH for The Future” ฟิลเตอร์แอปพลิเคชัน แสดงอันตรายจากแสงแดดต่อผิวหนัง โดย ลอรีอัล ประเทศไทย 

“ไก่อวกาศ” อาหารปลอดภัย มาตรฐาน Space safety ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในกระบวนการผลิต  “ฟ.ฟาร์ม”แอปพลิเคชัน ครบวงจร เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรไทย จาก CPF “Zeroing in on climate”  อินเตอร์แอคทีฟเกม ที่ทำให้รู้จักก๊าซเรือนกระจก และแนวทางกู้โลกจากวิกฤต climate change โดย SCBx  “โมเดลจำลองร้าน 7-Eleven ประหยัดพลังงาน” และ “รถไฟฟ้า NEOLIX & รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า  EV Bike” การพัฒนาระบบขนส่งไร้คนขับ จาก CP ALL

“ห้องดิจิตอล อิมเมอร์ซีฟ Save The Sea” สัมผัสประสบการณ์การกู้โลกใต้ทะเล ในยุคทะเลเดือด เพื่อฟื้นคืนบ้านที่น่าอยู่ให้โลก โดยเซ็นทรัลพัฒนา “Refill Station” สถานีลดใช้พลาสติกเพื่อสังคมที่น่าอยู่ และ “Innovation Products for Sustainability” นวัตกรรมสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จาก CP AXTRA  “นวัตกรรมป้องกันยุง” และ กิจกรรมด้านความยั่งยืนของคาโอ (KAO)  เทคโนโลยีที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้  ผ่านแว่น VR และหุ่นยนต์ Humaniodที่ทำให้วิถีชีวิตง่ายขึ้นและอัจฉริยะขึ้น จาก TRUE เป็นต้น