มหาวิทยาลัยเยลเผย 10 อันดับประเทศสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลก ไทยร่วงอันดับ 91

มหาวิทยาลัยเยลเผย 10 อันดับประเทศสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลก ไทยร่วงอันดับ 91

ดัชนี EPI ปี 2024 โดยมหาวิทยาลัยเยล จัดอันดับประเทศสิ่งแวดล้อมของ 180 ประเทศ อันดับ 1 เอสโตเนีย ส่วนไทยหล่นลงจากปี 2023 มาอยู่ที่อันดับ 91 ทั้งนี้ EPI ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs และข้อตกลงปารีส

ดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมปี 2024 (Environmental Performance Index : EPI) ซึ่งจัดทำโดยศูนย์กฎหมายและนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งมหาวิทยาลัยเยล (Yale Center for Environmental Law & Policy) และศูนย์เครือข่ายข้อมูลวิทยาศาสตร์โลกแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในด้านความยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม

โดยดัชนี EPI ปี 2024 ใช้ตัวชี้วัด 58 ตัวใน 11 หมวดหมู่ เพื่อประเมินประสิทธิภาพของประเทศต่าง ๆ ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้ครอบคลุมประเด็นหลัก ๆ ดังนี้

  • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การประเมินการลดการปล่อยก๊าซที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ
  • การใช้พลังงานหมุนเวียน: การประเมินการใช้พลังงานจากแหล่งที่ยั่งยืน
  • การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ: การประเมินการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
  • สุขภาพสิ่งแวดล้อม: การประเมินคุณภาพอากาศ น้ำ และการจัดการขยะ

10 อันดับประเทศสิ่งแวดล้อมดีที่สุด

ปีนี้ประเทศเอสโตเนียได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่เดนมาร์กซึ่งเคยอยู่ในอันดับ 1 ในปี 2022 ตกลงมาอยู่อันดับที่ 10 ในปี 2024

อันดับ 1 เอสโตเนีย 75.3 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การใช้พลังงานหมุนเวียนและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

อันดับ 2 ลักเซมเบิร์ก 75.0 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

อันดับ 3 เยอรมนี 74.6 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวและการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

อันดับ 4 ฟินแลนด์ 73.7 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการป่าไม้

อันดับ 5 สหราชอาณาจักร 72.7 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การลดมลพิษทางอากาศและการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน

อันดับ 6 สวีเดน 70.5 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การจัดการทรัพยากรน้ำและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

อันดับ 7 นอร์เวย์ 70.0 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การใช้พลังงานหมุนเวียนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

อันดับ 8 ออสเตรีย 69.0 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การจัดการขยะและการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

อันดับ 9 สวิตเซอร์แลนด์ 68.0 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การจัดการทรัพยากรน้ำและการลดมลพิษทางอากาศ

อันดับ 10 เดนมาร์ก 67.9 คะแนน

- แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด : การใช้พลังงานหมุนเวียนและการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

ประเทศไทยหล่นลงสู่อันดับที่ 91

ในดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมปี 2024 (EPI) ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 91 โดยมีคะแนนรวม 45.4 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงในบางหมวดหมู่ เช่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม อันดับของประเทศไทยหล่นลงจากปี 2023 ซึ่งอยู่ที่อันดับ 87 จาก 180 ประเทศ โดยมีคะแนนรวม 47.5

ในรายงานนี้ ประเทศไทยมีคะแนนที่โดดเด่นในด้านการปกป้องป่าไม้ โดยเฉพาะการลดการสูญเสียป่าดั้งเดิมและการปกป้องพื้นที่ป่าไม้ที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายด้านที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเพิ่มเติม เช่น การลดมลพิษทางอากาศในเมืองใหญ่และการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ธรรมชาติ

Key Points เกี่ยวกับการประเมินของประเทศไทย มีดังนี้

  • การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ: ประเทศไทยมีการปรับปรุงในด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การปกป้องพื้นที่ป่าและการจัดการน้ำ
  • การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: มีความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านนโยบายและโครงการต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน
  • สุขภาพสิ่งแวดล้อม: ประเทศไทยยังคงมีความท้าทายในการปรับปรุงคุณภาพอากาศและการจัดการขยะ

ดัชนี EPI ปี 2024 ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และข้อตกลงปารีส