‘เงินบาทแข็งค่า’ เปิดตลาดที่ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ จากสหรัฐ-ยุโรปหยุดยาว

‘เงินบาทแข็งค่า’ เปิดตลาดที่ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ จากสหรัฐ-ยุโรปหยุดยาว

“กรุงไทย” ชี้เงินบาทแข็งค่าจากฝั่งสหรัฐ-ยุโรปหยุดช่วงคริสต์มาส ดอลลาร์อ่อนค่าแต่ธุรกรรมเบาบาง จับตาตัวเลขส่งออกไทยวันนี้หากแย่กว่าคาดกดดันบาทพลิกอ่อนค่า มองกรอบวันนี้ 34.50-34.75 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (27 ธ.ค.) ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ34.50-34.75 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 34.50 - 34.90 บาทต่อดอลลาร์ ต่อไป จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันเงินบาทในฝั่งอ่อนค่าที่ต้องจับตาใกล้ชิด คือสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในจีนที่ยังคงน่ากังวล หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากสถานการณ์การระบาดเลวร้ายมากขึ้น อาทิ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นมาก ก็อาจทำให้ทางการจีนกลับมาใช้นโยบายควบคุมการระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งสามารถกดดันให้สินทรัพย์ในฝั่งจีนปรับตัวลดลงอีกครั้ง ส่วนค่าเงินหยวน (CNY) ก็มีโอกาสอ่อนค่าลงได้ ส่งผลกระทบให้สกุลเงินฝั่งเอเชียอาจอ่อนค่าลงตาม 

ส่วนในวันนี้ หากรายงานยอดการส่งออกของไทยล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาดไปมาก จนดุลการค้าขาดดุลหนัก ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี เราคงประเมินว่า แม้เงินบาทจะมีความเสี่ยงในฝั่งอ่อนค่าอยู่บ้าง แต่มองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านแถว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ง่ายนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาด อย่างบรรดาผู้ส่งออก ต่างก็รอจังหวะการอ่อนค่าของเงินบาทในการทยอยขายเงินดอลลาร์ ส่วนผู้เล่นต่างชาติที่ยังคงมีมุมมองเชื่อว่า เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นต่อได้ ก็รอจังหวะในการเพิ่มสถานะ Short USDTHB อยู่บ้าง

ทั้งนี้ เรามองว่า ควรระมัดระวังความผันผวนของตลาดค่าเงินในช่วงปลายปี ซึ่งธุรกรรมในตลาดอาจเบาบางลงมากทำให้ค่าเงินสามารถเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบที่กว้างได้  

การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราคงแนะนำ ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก

ตลาดการเงินในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปปิดทำการเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส ทำให้ปริมาณธุรกรรมในตลาดเบาบางลงซึ่งในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามธุรกรรมของผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่รอจังหวะให้เงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง ในการทยอยขายเงินดอลลาร์ หรือ เพิ่มสถานะ Short USDTHB นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำของผู้เล่นบางส่วนที่ต้องการลดสถานะถือครองทองคำในช่วงปลายปี ก็อาจพอช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้เช่นกัน

 

สำหรับวันนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในฝั่งตลาดการเงินไทย คือ รายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ โดย ตลาดคาดว่า ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะทำให้ยอดการส่งออก (Exports) ในเดือนพฤศจิกายน อาจหดตัวต่อเนื่อง -5%y/y ในขณะที่ยอดการนำเข้า (Imports) อาจยังขยายตัวราว +0.6%y/y ทำให้ดุลการค้า (Trade Balance) อาจขาดดุลราว -100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ