'ดาวโจนส์' ปิดลบ 45.74 จุด หลังบวกมา 4 วันติด
หุ้นวอลล์สตรีทปิดลบในพฤหัสบดี (16 พ.ย.) หลังบวกมา 4 วันติด ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐปิดการซื้อขายวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 45.74 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 34,945.47 จุด หลังปิดบวกมา 4 วันทำการติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.12% ปิดที่ 4,508.24 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 0.07% ปิดที่ 14,113.67 จุด
ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐหลายรายกอดคอกันร่วง หลังเผยผลประกอบการอ่อนแอ นำโดยราคาหุ้นของบริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ ปิดดิ่งลงเกือบ 10% ในวันพฤหัสบดี หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรและรายได้ในปี 2567
นอกจากนี้ ราคาหุ้นวอลมาร์ท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก ปิดร่วงลงกว่า 8% หลังบริษัทคาดการณ์กำไรในปีนี้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะที่ราคาหุ้นของเชฟรอน ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ปิดร่วง 1.6% หลังราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงราว 5%
ขณะเดียวกัน นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังตลาดดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค.2566, ม.ค.2567 และ มี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือน พ.ค.2567
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 7,750 ราย สู่ระดับ 220,250 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 32,000 ราย สู่ระดับ 1.87 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.