'เกาหลีใต้' เอาจริงลงดาบ Naked Short สั่งปรับ 2 แบงก์ 'HSBC-BNP' หมื่นล้านวอน
สื่อชี้รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมสั่งปรับ 2 ธนาคารใหญ่ 'เอชเอสบีซี-บีเอ็นพี พาริบาส์' เป็นอย่างน้อย 1 หมื่นล้านวอน ฐานฝ่าฝืนทำ Naked Short Selling
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า คณะกรรมการด้านบริการทางการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) ได้แนะนำให้คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงิน (FSS) ดำเนินการลงโทษธนาคาร เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ และ บีเอ็นพี พาริบาส์ ด้วยการสั่งปรับเป็นเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านวอน (ราว 267 ล้านบาท) ในความผิดฐานทำ Naked Short Selling
การทำ Naked Short Selling หมายถึง การขายชอร์ตหุ้นที่ยังไม่ได้มีการกู้ยืมหุ้นมาก่อน หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือการขายชอร์ตหุ้นออกไปโดยที่นักลงทุนรายนั้นไม่ได้ถือหุ้นอยู่จริง ซึ่งถือเป็นข้อห้ามตามกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้ ที่ออกกฎแบนไปจนถึงกลางปี 2567
แหล่งข่าวระบุว่า กรรมการทั้ง 5 คนของ FSC ซึ่งนำโดย คิม โซ ยัง รองประธาน ได้หารือกันเกี่ยวกับการลงโทษปรับดังกล่าวในระหว่างการประชุมเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป และกรรมการ FSC จะเร่งหาข้อสรุปในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินที่จะปรับธนาคารทั้งสองแห่ง
อย่างไรดี โฆษกของ FSS และ FSC ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว โดยระบุเพียงว่าคณะกรรมการจำเป็นต้องหารือกันเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเอชเอสบีซี และบีเอ็นพี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเช่นกัน
หากเอชเอสบีซีและบีเอ็นพีถูกลงโทษปรับจริง ก็จะถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้ใช้บทลงโทษดังกล่าวต่อวาณิชธนกิจชั้นนำระดับโลกในความผิดเกี่ยวกับการทำ Naked Short Selling
เกาหลีใต้ออกกฎห้ามชอร์ตเซลถึงกลางปี 2567
เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการ FSC ได้ประกาศมาตรการห้ามทำการขายชอร์ตหุ้น (short-selling) ในบริษัทต่าง ๆ ที่จดทะเบียนใน ดัชนี KOSPI 200 Index และ ดัชนี KOSDAQ 150 Index ของ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (6 พ.ย.) ไปจนถึงเดือนมิ.ย. 2567
นายคิม จู-ฮยุน ประธาน FSC แถลงว่า "การออกคำสั่งห้ามขายชอร์ตมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบและระบบการซื้อขายในตลาดหุ้น เพื่อสร้างความเท่าเทียมระหว่างนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน
ในช่วงที่ผ่านมานั้น วาณิชธนกิจต่างชาติรายใหญ่ได้รุกเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้และมีพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่ง FSC ไม่สามารถปล่อยให้การซื้อขายที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ดำเนินต่อไปได้"