เกาหลีใต้เจอเคส 'ชอร์ตเซล' เพิ่มอีก พบแบงก์ต่างชาติเอี่ยวหลายราย

สำนักงานกำกับดูแลทางการเงินเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า พบหลักฐานการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำชอร์ตเซล หรือการยืมหุ้นมาขายก่อนแล้วซื้อคืนในภายหลัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับธนาคารต่างประเทศหลายแห่ง คิดเป็นธุรกรรมหลายหมื่นล้านวอน 

อีบกฮยอน ผู้อำนวยการของ FSS กล่าวว่า ในระหว่างที่ FSS ดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการขายชอร์ตที่ผิดกฎหมายโดยธนาคารเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ ได้พบหลักฐานเพิ่มเติมของการขายชอร์ตที่ผิดกฎหมายซึ่งมีมูลค่านับหมื่นล้านวอน และได้รับการยืนยันแล้วจากธนาคารเพื่อการลงทุนหลายแห่ง โดยคดีที่เกี่ยวข้องบางเคสอยู่ในขั้นตอนหลังของกระบวนการสอบสวน

อย่างไรก็ดี การกำหนดเส้นตายที่ชัดเจนในตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่จากมุมมองของ FSS อาจกล่าวได้ว่า การสอบสวนเกือบจะได้ข้อสรุปสำหรับคดีสำคัญบางคดีเป็นอย่างน้อย

"มีความเป็นไปได้ที่จะเร่งรัดการสอบสวน อย่างไรก็ตาม เรากำลังรับฟังเรื่องราวของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่า FSS จะไม่มองข้ามแง่มุมใด เนื่องจากธนาคารเพื่อการลงทุนระดับโลกที่ระบุนั้นเป็นส่วนหนึ่งของตลาดการเงินของเกาหลีใต้ด้วย ในเร็วๆ นี้ เราจะอธิบายรายละเอียดให้สาธารณชนรับทราบ และรับรองว่าจะสะท้อนให้เห็นในการปรับปรุงระบบการขายชอร์ตอย่างต่อเนื่อง" อีบกฮยอน กล่าว

สำหรับกรณีที่มีความกังวลจากนักลงทุนต่างชาติว่า กฎระเบียบการขายชอร์ตเกาหลีใต้เข้มงวดเกินไปนั้น ผู้อำนวยการของ FSS กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนที่จะชี้แจงลักษณะของตลาดการเงินเกาหลีใต้และข้อกังวลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภูมิภาคและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับประเด็นนี้ เช่น ฮ่องกง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของตลาด

“เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของตลาด เรากำลังวางแผนที่จะอธิบายลักษณะของตลาดการเงินของเกาหลีใต้และข้อกังวลของมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับประเด็นสำคัญในปัจจุบัน เช่น ฮ่องกง ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของนักลงทุนสัมพันธ์หรือคำอธิบายทั่วไปจากหน่วยงานกำกับดูแล เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในระดับนานาชาติของเรา”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์และตลาดล่วงหน้าของเกาหลีใต้ ได้ดำเนินการลงโทษปรับวาณิชธนกิจต่างชาติ 2 แห่ง คือ ธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ (HSBC) และ บีเอ็นพี พาริบาส์  (BNP Paribas) และบริษัทในเครือ 1 แห่งเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 2.65 หมื่นล้านวอน (ราว 707 ล้านบาท ในความผิดฐานทำ Naked Short-Selling ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในเกาหลีใต้