7 หมื่นล้าน! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้อีลิทวีซ่าการ์ด แฝงตัวฟอกเงินในไทย
เงินหมุนเวียน 7 หมื่นล้านบาท แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้อีลิทวีซ่าการ์ด แฝงตัวฟอกเงินในไทย
น่าตกใจเงินหมุนเวียน 7 หมื่นล้านบาท แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ อีลิทวีซ่าการ์ด แฝงตัวฟอกเงินในไทย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุม
- MR.CHEN สัญชาติจีน ในพื้นที่เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
- นายอนันต์ฯ ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ในความผิดฐาน
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,
- ร่วมกันนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ,
- มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,
- สมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ
- ร่วมกันฟอกเงิน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้อีลิทวีซ่าการ์ด
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้จับกุมกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สร้างเว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย และต่อมาได้สืบสวนขยายผล
จนพบคนร้ายเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 ราย ที่แบ่งหน้าที่กันทำเป็นกระบวนการ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นจับกุม โดยสามารถจับกุม MR.CHEN และนายอนันต์ฯ ซึ่งทำหน้าที่จัดการกระเป๋าดิจิทัลที่ใช้ในการกระทำความผิด
และร่วมกันการฟอกเงินดิจิทัลให้เป็นเงินสด(บาทและหยวน) สนับสนุนการใช้จ่ายเงินของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์
พร้อมกันนี้ยังสามารถยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด 11 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 42 ล้านบาท นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. และ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ร่วมด้วย กก.1 บก.ปอท., กก.4 บก.ปคบ. และ ทล.1 กก.6 บก.ทล. ดำเนินการ
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า MR.CHEN มีหน้าที่จัดการกระเป๋าดิจิทัล และฟอกเงินจากเหรียญดิจิทัลเป็นเงินสกุลต่างๆ
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานปฏิบัติการในประเทศกัมพูชา โดยมียอดเงินหมุนเวียนในกระเป๋ารวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้กระเป๋าดิจิทัลของแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ยังตรงกับกระเป๋าของคนร้ายที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้มากกว่า 30 คดี
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบวีซ่าของ MR.CHEN ยังพบว่าเป็น วีซ่าประเภท อีลิท การ์ด แพคเกจแบบ 5 ปี ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอวีซ่าดังกล่าวเพื่อแฝงเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทย