'หุ้นอินเดีย' พุ่งสูงสุดทุบสถิติใหม่ รับข่าวดี 'โมดี' ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย
ตลาดหุ้นอินเดียเปิดตลาดทุบสถิติใหม่ทั้ง Nifty 50 และ Sensex ขณะที่เงินรูปีแข็งค่าขึ้นในรอบปี รับข่าวดี ‘โมดี’ จ่อชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3 ถล่มทลาย นักวิเคราะห์ชี้อานิสงส์ผลงานเศรษฐกิจโดดเด่นตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
"ตลาดหุ้นอินเดีย"เปิดตลาดอย่างร้อนแรงในวันนี้ (3 มิ.ย.) รับข่าวดีที่เอ็กซิตโพลหลายแห่งคาดการณ์ว่า กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลในนามพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (NDA) ภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของอินเดียที่เสร็จสิ้นลงไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. โดยคาดว่าจะได้คะแนนเสียงระหว่าง 350 - 400 ที่นั่ง จากทั้งหมด 543 ในสภา
ดัชนี Nifty 50 เปิดบวกพุ่งทะยานถึง 611.20 จุด หรือ 2.71% ไปอยู่ที่ 23,141.90 จุด ในขณะที่ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นบอมเบย์ เปิดบวกถึง 1,894.7 จุด หรือ 2.56% ไปอยู่ที่ 75,856.01 จุด ซึ่งถือเป็นระดับ "สูงสุดทุบสถิติใหม่" ของดัชนีหลักตลาดหุ้นอินเดียทั้งสองตัวนี้
ทางด้านค่าเงินรูปีปรับตัวแข็งค่าขึ้นไปอยู่ที่ 83.11 รูปีต่อดอลลาร์ จากระดับ 83.46 รูปีต่อดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 31 พ.ค. โดยแข็งค่ามากถึง 0.6% ระหว่างการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 ในขณะที่บอนด์ยีลด์ 10 ปีของอินเดียปรับตัวลง 0.03%
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้ง (เอ็กซิตโพล) ที่เผยแพร่โดยหน่วยงานสำรวจของเอกชนหลายแห่งคาดการณ์ว่า กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลในนามพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (NDA) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของอินเดียที่เสร็จสิ้นลงไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย.
สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) ได้อ้างอิงผลเอ็กซิตโพล 4 โพล และคาดการณ์ว่ากลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลของนายโมดีจะคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายเหนือคู่แข่งอย่างกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการเลือกตั้งทั่วไประหว่างวันที่ 19 เม.ย. ถึง 1 มิ.ย. ซึ่งจะมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิ.ย.
"เรารู้สึกมาตลอดว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในอินเดียตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เพียงพอแล้วที่จะทำให้โมดีชนะเลือกตั้งอีกครั้ง (สมัยที่ 3) ได้อย่างง่ายๆ และหากผลเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามคาดก็จะถือเป็นการลงมติไว้วางใจอย่างแท้จริง ทำให้โมดีสามารถเดินหน้าต่อได้ และอาจนำไปสู่การเติบโตที่เร็วที่สุดของอินเดีย ซึ่งตลาดก็น่าจะตอบรับเป็นอย่างดี" ร็อบ บริวอิส นักวิเคระห์จากออเบรย์ แคปิทัล แมเนจเมนท์ กล่าว
ทางด้านบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นอินเดียมูลค่า 4.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจเก่าและหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจเป้าหมายใหม่ แต่หากโมดีสามารถเดินหน้าการปฏิรูปสำคัญในด้านที่ดินและแรงงานได้ ก็อาจช่วยกระตุ้นหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ๆ เช่น ชิป ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และห่วงโซ่อุปทาน และหากอินเดียสามารถเพิ่มคุณค่าเหมือนกับที่จีนและเกาหลีใต้ทำได้มาแล้ว ตลาดหุ้นอินเดียก็อาจแซงหน้าญี่ปุ่นได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้