ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ ปัจจัยบวกน้อย - นักลงทุนชะลอเทรดก่อนประชุมแจ็กสัน โฮล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคารที่ 20 ส.ค.67 เนื่องจากตลาดมีปัจจัยกระตุ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดี นี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones) ปิดลบ 61.56 จุด หรือ -0.15% ปิดที่ 40,834.97 จุด
• ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปิดลบ 11.13 จุด หรือ -0.20% ปิดที่ 5,597.12 จุด
• ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต (Nasdaq) ปิดลบ 59.83 จุด หรือ -0.33% ปิดที่ 17,816.94 จุด

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดตลาดอ่อนแรงลงเล็กน้อย หลังจากที่วันก่อนหน้า (19 ส.ค.67) ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq เพิ่งปิดในแดนบวกติดต่อกัน 8 วันทำการ ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในปี 2567 และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ปรับตัวขึ้นเป็นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.65% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเฮลท์แคร์ ปรับตัวขึ้น 0.53% และ 0.37% ตามลำดับ

หุ้น Eli Lilly ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากมีรายงานว่า ยาลดน้ำหนัก Zepbound สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้ใหญ่ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)

หุ้นโบอิง ร่วงลง 4.2% สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ประกาศว่าจะนำคำสั่งด้านความสมควรเดินอากาศมาใช้กับเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliner ของบริษัทโบอิง

"สัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำผลงานดีที่สุดในปีนี้ และผมไม่คิดว่าการที่ตลาดอ่อนแรงลงในวันอังคารจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผมมองว่านักลงทุนเพียงแค่ชะลอการซื้อขาย หลังจากที่รุกซื้อหุ้นในตลาดอย่างคึกคักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา" ชัค คาร์ลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ฮอไรซอน อินเวสต์เมนท์ เซอร์วิสเซส กล่าว

ทั้งนี้ การประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล จะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี จนถึงวันเสาร์ นี้ (22-24 ส.ค.67) โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.67 เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับจำนวนครั้ง และช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในปีนี้ และปีหน้า

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 30.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐอาจจะเปิดเผยรายงานการทบทวนข้อมูลการจ้างงานสำหรับช่วงเวลา 12 เดือนที่นับจนถึงเดือนมี.ค. ในวันนี้ (21 ส.ค.67) โดยหากทางกระทรวงปรับลดการประเมินข้อมูลดังกล่าวลงอย่างมีนัยสำคัญ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อแนวทางนโยบายการเงินของเฟดที่ต้องพึ่งพาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์