สกุลเงินทั่วเอเชีย ‘อ่อนค่าลง’ ในสัปดาห์นี้ เหตุนักลงทุนมองเฟดอาจไม่ลดดอกเบี้ยลงตามคาด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “สกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย” กำลังเผชิญภาวะผันผวนอย่างรุนแรงในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลายากลำบากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี สาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างมาก

ดัชนีสกุลเงินในเอเชียที่ดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์นี้ กำลังมุ่งหน้าสู่การลดลงมากที่สุดในรอบหลายเดือน สกุลเงินอย่างริงกิตมาเลเซีย รูเปียห์อินโดนีเซีย และบาทไทยได้รับผลกระทบหนักที่สุด สาเหตุมาจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

สถานการณ์นี้พลิกผันอย่างสิ้นเชิงจากไตรมาสก่อนหน้าที่สกุลเงินเอเชียทำผลงานโดดเด่นที่สุดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ปัจจุบัน นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 29% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์ในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งลดลงจากความคาดหวังเดิมอย่างมาก

ด้าน K2 Asset Management มองว่าดอลลาร์อ่อนค่าเกินไป และข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ น่าจะยืนยันมุมมองที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในครั้งต่อไป

ขณะที่ริงกิต บาท และรูเปียห์ ได้อ่อนค่าลงมากกว่า 2% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือว่าเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่ โดยแรงขายน่าจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างดอลลาร์เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของการฟื้นตัวที่เชื่อมโยงกับจีน

เคน เชียง นักยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนเงินตราเอเชียประจำธนาคาร Mizuho กล่าวว่า “หยวนที่อ่อนค่าลงได้เน้นย้ำความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนหลังวันหยุด ทำให้สกุลเงินในเอเชียเกิดใหม่ที่มีการเชื่อมโยงกับจีนมากขึ้นอ่อนค่าลง”

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์