หุ้น Super Micro Computer น่าห่วง ร่วงหนัก 33% เซ่นข่าว EY ถอนตัวผู้สอบบัญชี
หุ้นบริษัทเทคอเมริกา Super Micro Computer เขย่าความเชื่อมั่นตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วง 33% ในวันเดียว หลังบิ๊กโฟร์ Ernst & Young ถอนตัวจากการเป็นผู้สอบบัญชีให้ เผยกังวลเรื่อง “ความโปร่งใส”
หุ้นของ Super Micro Computer (SMCI) บริษัทผลิตเซิร์ฟเวอร์รายใหญ่ในสหรัฐร่วงลงหนักเกือบ 33% ในวันพุธที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา จากรายงานข่าวที่บริษัทผู้สอบบัญชีรายใหญ่ เอินส์ท แอนด์ ยัง (Ernst & Young) ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีให้ หลังจากมีความขัดแย้งกับบริษัทเกี่ยวกับการกำกับดูแลและความเป็นอิสระของคณะกรรมการมาหลายเดือน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐกังวลเกี่ยวกับ "งบการเงิน" ของบริษัทผลิตชิปแห่งนี้
เอินส์ท แอนด์ ยัง ระบุในจดหมายลาออกจากการเป็นผู้สอบบัญชีว่า "ไม่เต็มใจที่จะข้องเกี่ยวกับงบการเงินที่จัดทำโดยฝ่ายบริหาร" และยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของคณะกรรมการบริษัทซูเปอร์ ไมโครจาก ชาร์ลส์ เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และ "สมาชิกฝ่ายบริหารคนอื่นๆ" ในบริษัท
ทั้งนี้ เอินส์ท แอนด์ ยังได้รับการว่าจ้างให้ตรวจสอบบัญชี Super Micro เป็นครั้งแรกสำหรับปีงบประมาณ 2567 โดยบริษัท Super Micro ยังคงไม่ได้ออกงบการเงินสำหรับปีนี้ และมีรายงานด้วยว่าบริษัทกำลังถูกสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ
สำหรับบริษัท Super Micro Computer เป็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์รายใหญ่ในสหรัฐสำหรับเว็บไซต์ การจัดเก็บข้อมูล และแอปพลิเคชันอื่นๆ รวมถึงอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยมีลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มบิ๊กเทคหลายราย อาทิ Nvidia, AMD และ Intel
หุ้นของ Super Micro เพิ่งเข้าร่วมในกระดาน S&P 500 เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ หลังจากที่พุ่งทะยานขึ้นถึง 246% ในปี 2566 ที่ผ่านมา
ปมเสี่ยงปัญหาทางบัญชี
ซีเอ็นบีซีระบุว่า ผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมทางการเงินภายใน การกำกับดูแล และการให้ความร่วมมือของ Super Micro ในช่วงปลายเดือนก.ค. 2567 ทำให้บริษัทเซิร์ฟเวอร์รายนี้ต้องแต่งตั้ง "คณะกรรมการพิเศษ" เพื่อตรวจสอบการควบคุมภายในของบริษัท
เอินส์ท แอนด์ ยัง ระบุในจดหมายลาออกว่า “เราตัดสินใจถอนตัวเนื่องจากข้อมูลที่เพิ่งได้รับแจ้งซึ่งทำให้เราไม่สามารถเชื่อคำชี้แจงของฝ่ายบริหารและคณะกรรมการตรวจสอบได้อีกต่อไป” ขณะที่ความกังวลของบริษัทผู้สอบบัญชีมีขึ้นก่อนที่จะมีรายงานข่าวเรื่องการขายชอร์ตของบริษัท ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การควบคุมทางการเงินและแนวทางการบัญชีของ Super Micro
ก่อนหน้านี้ Super Micro เคยประสบปัญหาเกี่ยวกับแนวทางการทำบัญชีกับหน่วยงานกำกับดูแลมาก่อน โดยในปี 2563 บริษัทได้จ่ายค่าปรับ 17.5 ล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลกล่าวหาว่า บริษัทบันทึกรายได้ก่อนกำหนดและไม่เหมาะสม
ล่าสุด Super Micro ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย Cooley และสำนักงานบัญชีนิติเวช (Forensic Accounting) เพื่อตรวจสอบการควบคุมภายในของบริษัท ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปตามเอกสารไฟลิ่งที่บริษัทแจ้งตลาดหลักทรัพย์