ราคาทองทรงตัวในช่วงวันหยุด ตลาดรอดูเฟดในปีหน้า

ราคาทองทรงตัวในช่วงวันหยุด ตลาดรอดูเฟดในปีหน้า

ราคาทองทรงตัวในช่วงวันหยุด เนื่องจากตลาดรอการเคลื่อนไหว ของเฟดในปี 2025 นักวิเคราะห์ คาดปีหน้าขึ้นแตะ 2,800 ดอลลาร์

รอยเตอร์สรายงานว่า ราคาทองคำทรงตัวในช่วงวันหยุดเทศกาลในวันอังคาร (24 ธ.คน.) เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนโยบายภาษีศุลกากรของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจกำหนดทิศทางราคาของโลหะมีค่าในปีหน้า

ราคาทองคำตลาดโลก (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 2,616.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ของสหรัฐปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2,635.50 ดอลลาร์

“แนวโน้มขาลงในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะเกิดจากสภาพคล่องต่ำเป็น หลัก” เซย์น วาวดา นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัทวิจัยข้อมูล MarketPulse by OANDA กล่าว

ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงในปี 2024 โดยมีแนวโน้มว่าจะทำผลงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 โดยให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 27%

“ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นในลักษณะเดียวกันในปี 2025 แต่จะขึ้นอยู่กับการพัฒนาด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นส่วนใหญ่” วาวดา กล่าวเสริม “หากไม่มีเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น กรณีฐานคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ประมาณ 2,800 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ซึ่งเกิดจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า”

ทองคำแท่งถือเป็นการลงทุนที่ ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความวุ่นวาย ทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันในปี 2024 ซึ่งจะปูทางไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาที่คล้ายกันในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้ออย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางต่างๆ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมเริ่มลดลงในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นท่ามกลาง "ความปิติยินดีต่อทรัมป์" ทำให้การพุ่งขึ้นของทองคำลดลง เนื่องจากทรัมป์เตรียมกลับเข้า ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม นักลงทุนในสหรัฐจึงเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญในปี 2025 ซึ่งรวมถึงภาษีการค้าที่อาจสูงขึ้น การยกเลิกกฎระเบียบ และการลดภาษี ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อได้

แฟรงค์ วัตสัน นักวิเคราะห์โลหะมีค่าจากแพลตฟอร์มโลหะมีค่า Kinesis Money กล่าวว่า “หาก (ภาษีศุลกากร) เกิดขึ้นจริง จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐมีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง และเราได้เห็นตลาดปรับลดความคาดหวังในเรื่องดังกล่าวสำหรับปี 2025 แล้ว”

แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากในเดือนกันยายน พฤศจิกายน และธันวาคม แต่ธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 มากนัก เนื่องจากเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การถือทองคำแท่งทำให้เสียต้นทุนโอกาส เนื่องจากทองไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย

ด้านราคาโลหะเงินคงที่อยู่ที่ 29.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมเพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 942.50 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.8% อยู่ที่ 946.11 ดอลลาร์