ความมั่นใจต่อทองคำเริ่มลดลง เมื่อการพุ่งขึ้นทำสถิติสะดุด

บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (28 เม.ย.68) ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนเริ่มมีแนวโน้มที่จะแผ่วลง เนื่องจากการทำสถิติสูงสุดเริ่มสะดุด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทองคำ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นักกลยุทธ์จากธนาคารบาร์คลีส์ Barclays เชื่อว่าทองคำกำลังมีราคาสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน และแนะนำให้ทำการซื้อขายแบบการกลับด้านความเสี่ยงที่ไม่มีต้นทุน โดยการขายออปชันซื้อ (calls) สำหรับเดือนมิถุนายนเพื่อนำเงินไปซื้อออปชันขาย (puts) เนื่องจากพวกเขาคาดว่าราคาทองคำจะลดลง

การพุ่งขึ้นของทองคำได้โดดเด่นกว่าสินทรัพย์ อื่นๆ ในเดือนนี้ แม้จะมีการเปรียบเทียบว่าคล้ายกับการเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์  เนื่องจากสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนมองหาความปลอดภัย แต่ตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงในตลาดออปชันทำให้ผู้เฝ้าติดตามตลาดบางคนบอกว่าถึงเวลาให้ระมัดระวังแล้ว

ราคาทองคำลดลงไปแล้ว 5% จากสถิติสูงสุด

เมื่อทองคำทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำราคาทะลุระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การซื้อขายออปชันในกองทุนทองคำ SPDR Gold Shares ETF มีปริมาณเกิน 1.3 ล้านสัญญา ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะเดียวกัน ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงในกองทุนที่จดทะเบียนอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม ขณะที่ค่าความผันผวนที่คาดการณ์ไว้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่ปกติ

“ทองคำ และบิตคอยน์มีลักษณะการเคลื่อนไหวที่คล้ายกันในช่วงที่ราคาขึ้น และความผันผวนสูงขึ้น ซึ่งคล้ายกับ Mag 7 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา” ทันวีร์ สันธุ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านตลาดอนุพันธ์โลกของ Bloomberg Intelligence กล่าว ความต้องการออปชันซื้อสำหรับโลหะมีค่านี้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การลดลงล่าสุดของสินทรัพย์นี้ทำให้ความผันผวนที่คาดการณ์ไว้ในราคาต่างๆ มีความสมดุลมากขึ้น เขากล่าวเสริม

ทองคำได้สูญเสียมูลค่าไปแล้วมากกว่า 5% จากจุดสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีสัญญาณว่าความตึงเครียดด้านการค้าบางอย่างอาจลดลง ในขณะเดียวกัน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ได้ลดพอร์ตฟิวเจอร์ส และออปชันสุทธิในโลหะนี้ลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี ตามข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ(Commodity Futures Trading Commission)

เตือนราคาทองคำอาจจะสูงเกินปัจจัยพื้นฐาน

ช่วงเวลาที่มีนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงในขณะนี้ ซึ่งเกิดจากภาษี และนำโดยธีมที่ว่า “ความพิเศษของสหรัฐ” กำลังจะสิ้นสุด ได้ช่วยให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ ในเดือนนี้ รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นสหรัฐ

แต่สำหรับนักกลยุทธ์จากธนาคาร Barclays  โลหะนี้กำลังมีราคาสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน ในบันทึกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาชี้ให้เห็นว่าการซื้อทองคำรายเดือนที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มระยะยาวในการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลาง

การทำผลงานที่โดดเด่นนี้ยังนำไปสู่การเก็งกำไรอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการลงทุนในกองทุนอีทีเอฟทองคำพุ่งสูงขึ้นหลังจากวันปลดแอก “Liberation Day” ของทรัมป์ ซึ่งนำไปสู่ความผันผวนในตลาดออปชัน สเตฟาโน ปาสคาล นักกลยุทธ์ จากธนาคาร Barclays กล่าว นอกจากนี้ การลดพอร์ตของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และการลดลงล่าสุดของทองคำยังเป็นเหตุผลให้ต้องระมัดระวัง อย่างน้อยในระยะสั้น นักกลยุทธ์ กล่าว

“เราคิดว่าทองคำจะลดลง” ปาสคาล กล่าวในการสัมภาษณ์ โดยเสริมว่าทองคำนั้นราคาสูงเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับ ปัจจัยพื้นฐาน ของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง “ทางด้านเทคนิคเริ่มมีการตึงขึ้นเล็กน้อย”

แกเร็ตต์ เดอซิโมน หัวหน้านักวิเคราะห์เชิงปริมาณที่ OptionMetrics มองเห็นความคล้ายคลึงกับบิตคอยน์ และสำหรับเขา สินทรัพย์ทั้งสองสามารถพุ่งสูงขึ้นได้อีก หากประเมินจากแนวโน้มดัชนีความผันผวนของราคา และความผันผวนยังคงสอดคล้องกับข้อมูลย้อนหลังระยะยาว

“จากมุมมองของตลาดออปชัน น้ำหนักด้านบวก และด้านลบค่อนข้างเท่ากัน” เขากล่าว

ด้วยตัวชี้วัดเฉพาะของธนาคาร Barclays ที่แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกยังคงเป็นบวกต่อทองคำ นักกลยุทธ์จึงแนะนำให้ขายออปชันซื้อสำหรับเดือนมิถุนายน เพื่อนำเงินไปซื้อออปชันขายในลักษณะที่ไม่มีต้นทุน  

“ชัดเจนว่าการซื้อขายนี้ส่วนใหญ่มีทิศทางเดียว ดังนั้นสำหรับการซื้อขายนี้จะได้ผลจริง ๆ ราคาทองคำต้องลดลง” ปาสคาล กล่าว

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์