วิกฤติพลังงานยุโรป หุ้นรายงานพิเศษ AUCT
วันศุกร์ที่ผ่านมา ในภาคเช้าดัชนีปรับตัวลงแรงถึง -11 จุด จากความกังวลที่จีนล็อคดาวน์ในหลายเมือง แต่เริ่มมีแรงช้อนซื้อกลับ ทำให้ดัชนีลดช่วงลบ และปิดทรงตัว
โดยนักลงทุนติดตามข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ ซึ่งแรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,622.15 จุด +0.20 จุด +0.01% มูลค่าการซื้อขาย 61,345 ลบ.ต่างชาติ -2,189.22 ลบ. TFEX -15,899 สัญญา ตราสารหนี้ +840.97 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 86.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงร่วงลงราว 6.6% ในรอบสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคพลัสในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.นี้
+ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค.
+ ธปท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนสิงหาคม 2565 ว่าทรงตัวอยู่ที่ 49.6 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นด้านต้นทุนปรับดีขึ้นมากแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 1,360 ราย มีผู้เสียชีวิต 22 ราย รักษาหาย 2,106ราย
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 337.98 จุด หรือ -1.07% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 3% โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติพลังงานในยุโรป หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานอาจเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งลดแรงกดดันที่เฟด จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง
- รัฐบาลสหรัฐจะยังคงเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อไป ขณะที่จะทำการทบทวนด้านกฎหมายสำหรับการเก็บภาษีดังกล่าวที่กำหนดขึ้นโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
- ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ประกาศว่าบริษัทจะยังคงปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ต่อไปโดยไม่มีกำหนด
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป ประกอบกับทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลให้ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออก มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,600-1,625 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว+ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว : ERW CENTEL AWC
• วิกฤติพลังงานยุโรป : PRM VL BANPU LANNA PTTEP
• แอปเปิล ประกาศจัดอีเวนต์ 7 ก.ย.เปิดตัว iPhone 14 : CPW SPVI COM7 SYNEX JMART
หุ้นรายงานพิเศษ
AUCT “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 10.60 บาท
คาดผลประกอบการจะฟื้นโตดีตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป
•งวด 2Q65 มีรายได้และกำไร 204 ลบ. +1%YoY -1.9%QoQ และ 45 ลบ. -1.8%YoY -1.2%QoQ ตามลำดับ อ่อนแอกว่าที่คาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม รายได้เริ่มฟื้นตัว YoY และอ่อนตัวลงเพียงเล็กน้อย QoQ แม้ช่วง 1Q65 มีรายได้จากการจัดงานประมูลพิเศษ โดยปัจจัยหนุนมาจากจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆของภาครัฐทำให้เศรษฐกิจคล่องตัวขึ้น ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่ทยอยสิ้นสุดลง ทั้งนี้ช่วง 1H65 มีกาไร 90 ลบ. คิดเป็น 35% ของประมาณการทั้งปีที่ 261 ลบ.
•คาดผลประกอบการจะฟื้นโตดีตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป โดยเราคงคาดการณ์กำไรทั้งปี 65 ที่ 261 ลบ. +3%YoY โดยมีปัจจัยหนุน 2 ประการ คือ 1) สถาบันการเงินทยอยจบโครงการพักชำระหนี้ ทำให้ปริมาณรถยึดเข้าสู่การประมูลมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น และ 2) การปรับค่าดำเนินการรถยนต์ 4 ล้อเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาท จาก 9,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.65 เป็นต้นไป
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการช่วง 2H65 รวมทั้งมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกจากการหาสินค้าใหม่ๆเข้ามาให้บริการประมูล โดยราคาหุ้นปรับตัวลง 12%YTD สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วง 1H65 ไปแล้ว ราคาเหมาะสม 10.60 บาท มีอัพไซต์กว่า 18% แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) BJC ( Bloomberg Consensus 41.00 บาท) พร้อมขายยารักษาโควิดในร้านขายยา "เพรียว" และ "สิริฟาร์มา" กว่า 146 สาขา ทั่วประเทศ หลังเว็บไซต์กองยา อย.เผยแพร่ประกาศ 5 ฉบับ ระบุหลักเกณฑ์ขายยารักษาโควิดในร้านขายยาแล้วตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา แย้มยอดขาย Big C ต่อสาขาฟื้นตัวแกร่ง หนุนจากทั้งลูกค้าใน-ต่างประเทศ เดินเครื่องผลิตบรรจุภัณฑ์เต็มกาลัง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CPW ( Bloomberg Consensus 4.13 บาท) รับทรัพย์เปิดตัวไอโฟน 14 กระแสดี ขณะที่แบรนด์ซัมซุง หัวเว่ย รวมถึงแบรนด์ใหม่อย่าง Nothing Phone หนุนยอดขายโต แถมเข้าไฮซีซันธุรกิจ จ่อรับรู้ IBIZ Plus เต็มปี ลุ้นยอดขายทั้งปีโตกว่าเป้าจากที่ตั้งไว้ 40% ลุยขยายสาขาตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PRM (Bloomberg consensus 8.20 บาท) อนุมัติแผนลงทุนใหญ่ ขยายพอร์ตกองเรือรวม 3 ลา ครอบคลุมทั้งกลุ่มเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมลอยน้ำ เรือขนส่งปิโตรเลียมภายในประเทศและเรือขนส่งปิโตรเคมี รวมวงเงินลงทุนประมาณ 1,896 ล้านบาท เสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ เตรียมทยอยให้บริการไตรมาสสุดท้ายปีนี้ หนุนธุรกิจเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) RT (Bloomberg consensus 1.60 บาท) แย้มอยู่ระหว่างเสนอประมูลงานใหม่ 3-4 โครงการ อุโมงค์-งานระบบชลประทาน-โรงไฟฟ้าพลังน้ำในต่างประเทศ ดัน Backlog สิ้นปีนี้แตะระดับ 8,500 ล้านบาท มั่นใจว่าตั้งแต่ครึ่งปีหลังปี 2565 ไปจนถึงต้นปี 2566 มีงานขนาดใหญ่ทยอยออกมาต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)