ICT sector - ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นบวก

เราแนะนำให้เก็งกำไร DTAC และ TRUE จากข่าวนี้ แต่ควรขายออกเมื่อราคาหุ้นขึ้นมาถึงราคาเป้าหมายของหุ้นทั้งสองตัว (ราคาเป้าหมายของ DTAC อยู่ที่ 50.50 บาท และของ TRUE อยู่ที่ 5 บาท) เพราะเราคาดว่า กสทช. จะกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวด ซึ่งอาจจะทำให้มูลค่าของ synergy ที่เกิดจากการรวมกิจการลดลง

 

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า กสทช. ไม่มีอำนาจสั่งห้ามดีลควบรวม

ตามรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แสดงความเห็นกลับไปตามที่ กสทช. ร้องขอในประเด็นพิจารณาว่า กสทช. มีอำนาจสั่งห้ามการรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE หรือไม่ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า กสทช. NBTC ไม่มีอำนาจระงับการรวมกิจการตามประกาศ กสทช. ปี 2018 เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ICT แต่ตามประกาศฉบับนี้ให้อำนาจ กสทช. ในการกำหนดเงื่อนไขเพื่อรักษาสภาวะการแข่งขันหลังการรวมกิจการ

 

 

 

 

กระบวนการควบรวมกิจการจะเดินหน้าต่อไป แต่ยังต้องจับตาเงื่อนไขของ กสทช.

ข่าวนี้เป็นบวกกับทั้ง DTAC และ TRUE และจะช่วยปูทางไปสู่การควบรวมที่ค้างเติ่งมานาน เราคาดว่า กสทช. จะออกประกาศมาในเร็ว ๆ นี้ให้สองบริษัทเดินหน้าควบรวมกิจการกันได้ แต่เรายังมีมุมมองที่ระมัดระวังกับเงื่อนไขที่ กสทช. จะกำหนดขึ้นมาเพื่อให้มั่นใจว่าสาธารณชนจะไม่คัดค้านดีลการควบรวมนี้อย่างหนัก  เราคาดว่ากสทช. อาจจะกำหนดเงื่อนไขดังต่อไปนี้ i) DTAC และ TRUE ต้องทำธุรกิจโดยใช้ทั้งสองแบรนด์ต่อไปอีกอย่างน้อยสามปีหลังการควบรวมกิจการ ii) DTAC และ TRUE ไม่สามารถแบ่งโครงข่าย และคลื่นความถี่ระหว่างกันได้ ในมุมมองของเรา เงื่อนไขแรกจะไม่กระทบกับมูลค่าของ synergy ที่จะเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE แต่หาก กสทช. กำหนดเงื่อนไขข้อหลังจริงจะทำให้ synergy ของการควบรวมกิจการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

 

สามารถเข้าเก็งกำไรใน DTAC และ TRUE ได้ แต่เรายังเลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม 

เนื่องจากราคาหุ้น DTAC และ TRUE ต่ำกว่าราคา tender offer (DTAC ที่ 47.76 บาท และ TRUE ที่ 5.09 บาท) เราจึงแนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นทั้งสองตัว โดยเราแนะนำให้ขายออกเมื่อราคาหุ้น DTAC ขึ้นมาถึงราคาเป้าหมายของเราที่ 50.50 บาท และเมื่อราคาหุ้น TRUE ขึ้นมาถึงราคาเป้าหมายของเราที่ 5 บาท เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงื่อนไขการควบรวมที่ กสทช. จะกำหนดขึ้นมา