Transportation Sector - BEM น่าจะชนะใสแล้วในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

แต่เราเชื่อว่า BEM จะเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มกับ รฟม. ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะมีคำพิพากษาของศาลหากมีการยื่นอุทธรณ์ เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท

 

ศาลยกฟ้องคดีการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

เมื่อวานนี้ ศาลอาญาคดีทุจริต พิพากษายกฟ้องกรณีที่ BTS ยื่นฟ้อง ผู้ว่า รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 กรณีเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มในปี 2020 และยกเลิกการประมูลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยในคำพิพากษา ศาลได้ให้คำอธิบายเหตุผลที่ผู้ว่า รฟม. และ คณะกรรมการคัดเลือกไม่มีความผิดตามฟ้องว่า i) ใน TOR มีข้อสงวนสิทธิ์ที่ให้สิทธิ์แก่ผู้ว่า รฟม. ในการที่จะเปลี่ยนแปลง TOR ได้ ii) การที่ผู้ว่า รฟม. สั่งยกเลิกการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบแรกไม่มีพฤติกรรมใดที่แสดงว่า?มีเจตนากลั่นแกล้งหรือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อ BTS ทั้งนี้ BTS มีเวลา 30 วันที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล

 

 

 

 

ยังคงมองว่า BEM จะเซ็นสัญญาได้ภายในสิ้นปีนี้

จากคำพิพากษาของศาลเมื่อวานนี้ ทำให้เราตีความได้ว่าผู้ว่า รฟม. และ คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย  และสามารถเซ็นสัญญาโครงการสายสีส้มกับกลุ่ม BEM ได้ ดังนั้น กรอบเวลาการเซ็นสัญญานระหว่าง รฟม. กับกลุ่ม BEM จึงน่าจะยังเป็นประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าเหมือนเดิม ในขณะเดียวกัน BTS ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ได้ แต่เราเชื่อว่าศาลไม่น่าจะมีคำพิพากษาออกมาก่อนการเซ็นสัญญาระหว่าง รฟม. กับ กลุ่ม BEM ดังนั้น เราจึงยังคงมองว่า BEM จะได้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นของ BEM เพิ่มขึ้นอีก 1 บาท/หุ้น

 

เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม และประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท

เรายังคงเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นของกราในกลุ่มนี้ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาทเนื่องจาก i) บริษัทจะได้อานิสงส์จากการไม่มีนโยบายคุม COVID แล้ว ซึ่งทำให้ปริมาณรถใช้ทางด่วน และผู้โดยสารรถไฟฟ้าฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ii) บริษัท เผชิญความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการน้อยกว่า BTS iii) มีโครงการใหม่ (สายสีส้ม) ที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของผลประกอบการ และมูลค่าหุ้นในระยะยาว