วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (30 ก.ย. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางกำลังการผลิตที่ไม่แน่นอนจากกลุ่มโอเปคพลัส
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังรายงานเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในสหรัฐหดตัวติดต่อกันสองไตรมาส บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิค อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่ายังคงเป็นปัจจัยลบต่อการซื้อขายสัญญาน้ำมันสำหรับนักลงทุนสกุลเงินอื่น
- กำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1.6 แสนบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 9% ของกำลังการผลิตในแถบอ่าวเม็กซิโก หลังต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวจากพายุเฮอร์ริเคนเอียน ทั้งนี้พายุเฮอร์ริเคนเอียนส่งผลให้โรงงานผลิตน้ำมัน 16 แห่งต้องหยุดดำเนินการในวันพุธที่ผ่านมา
- อุปสงค์ในจีนคาดว่าจะลดลงจากเทศกาลวันหยุดประจำชาติในช่วง ต้นเดือน ต.ค. นี้ โดยคาดการณ์ว่าการเดินทางในช่วงดังกล่าวจะแตะระดับต่ำสุด จากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (ZERO COVID-19) ในเมืองปักกิ่ง
+/- กลุ่มนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคพลัสที่จะมีแนวโน้มที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลง เพื่อพยุงราคาน้ำมัน ในการประชุมจัดขึ้นวันที่ 5 ต.ค. นี้ โดยทางรัสเซียมีแนวโน้มที่จะเสนอลดกำลังการผลิตกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการซื้อขายน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังอยู่ในระดับต่ำภายหลังการประชุม Asia Pacific Petroleum Conference 2022 อย่างไรก็ตามตลาดได้รับสัญญาณบวกจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้จากมาตรการลดภาษีน้ำมันที่ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ราว 16 ล้านบาร์เรล คิดเป็นการเติบโตราว 19% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการส่งออกในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 45% อยู่ที่ระดับ 20 ล้านบาร์เรล ในเดือนเดียวกัน