วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 ต.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังกลุ่มโอเปคปรับลดกำลังการผลิต
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
+ ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 4% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากข่าวการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตรที่ปรับลดกำลังผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. ทั้งนี้ กำลังการผลิตที่อาจปรับลดลงจริงคาดจะอยู่ที่ราว 1 ล้านบาร์เรลเท่านั้น
+ ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับลดลง แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังต้นทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 7 ต.ค. ปรับตัวลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 602 แท่น
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องได้และคาดจะส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบและสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานฝั่งตะวันตกที่มีแนวโน้มตึงตัวจากเหตุการณ์ประท้วงของแรงงานในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับในรอบ 2 สัปดาห์