BCH - กำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังจะเป็นขาขึ้น

ได้แก่ การปลดล็ออุปสงค์คงค้าง, ผู้ป่วยต่างชาติตลาดใหม่ๆ, บริการใหม่ ๆ (มะเร็ง และ wellness), ปรับปรุงโรงพยาบาล, รายได้ภาระเสี่ยงของประกันสังคม และนำด้อยค่าวัคซีนมาลดภาษี เราปรับลดกำไรปี FY22F 20% แต่ปรับขึ้นกำไรปี FY23F 3% และปี FY24F 12% เราใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2023 และปรับขึ้น 10% เป็น 26 บาท คิดเป็น TTR น่าสนใจที่ 31% เราปรับเพิ่มคำแนะนำ BCH จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”

 

คลายกังวลวัคซีนโมเดอร์นาหมดอายุ

BCH บันทึกด้อยค่าวัคซีนโมเดอร์นา 1.6 พันลบ. (รายการที่ไม่ใช่เงินสด) ใน 3Q ทำให้ขาดทุนสุทธิ 403 ลบ. อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวได้ใน 4Q เนื่องจาก i) อุปสงค์คงค้างจำนวนมากผู้ป่วย่โรคไม่เร่งวด่วนจากทุกกลุ่ม (ผู้ป่วยประกันสังคม, ผู้ป่วยชาวไทยและผู้ป่วยต่างชาติ) และปรับค่ารักษาขึ้น 3% ตั้งแต่เดือนก.ย. 2023   เราคาดรายที่ไม่เกี่ยวกับโควิดจะเพิ่มขึ้น 25% เป็น 1.46 หมื่นลบ.ในปี FY23F ii) ขยายตลาดผู้ป่วยต่างชาติได้แก่ ลิเบีย (ฟื้นฟูสุขภาพและ IVF) ซาอุดิอาระเบีย (รักษาแผลเบาหวาน) กัมพูชา (เปิดคลินิกที่ตลาดโรงเกลือ) และกลุ่ม expat (เปิดคลีนิคที่หมูบ้านนิชดา) iii) ศูนยฺมะเร็งแห่งใหม่จะสร้างเสร็จปลาย 2023 (ลดต้นทุนส่งต่อ และเพิ่มรายได้) iv) รับรู้รายได้เต็มปีในปี 2023 สำหรับ Wellness center และห้องแลป v) ปรับปรุงโรงพยาบาลการุญเวชปทุมธานีเป็นเกษมราษฎร์ vi) บันทึกรายได้ภาระเสี่ยงจากประกันสังคม (50 ลบ.) ใน 4Q22 และ vi) ค่าใช้จ่ายภาษีของวัคซีน โมเดอร์นาที่หมดอายุ (320 ลบ.) ใน 4Q22

 

 

ปรับประมาณการกำไร

เราปรับลดประมาณการกำไรปี FY22F ลง 20% เหลือ 3.2 พันลบ. แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY23F ขึ้น 3% เป็น 2.2 พันลบ. และปี FY24F ขึ้น 12% เป็น 2.4 พันลบ. เพื่อสะท้อนด้อยค่าวัคซีน, รายได้จากโควิดลดลง และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรคไม่เร่งด่วน ตลาดใหม่ ๆ และบริการใหม่ ๆ  เราใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2023 และปรับเพิ่ม 10% เป็น 26 บาท

 

มีอัพไซด์หลายประเด็น

ได้แก่ i) การปรับขึ้นค่าบริการของประกันสังคมเริ่ม 1 มค 2023 ซึ่งอาจผลย้อนหลังถึงวันที่ 1 มกราคม 2022 เรายังไม่ได้ใส่ปัจจัยนี้ในประมาณการของเรา ii) จำนวนผู้ลงทะเบียนประกันสังคมสูงเกินคาด iii) การขยายกิจการโรงพยาบาล (green field, brown field และโครงการ M&A)