ภาพรวมแกว่งตัวและมีแรงขายทำกำไรสลับรอปัจจัยผลักดันใหม่
ทิศทางเงินทุนระยะสั้นชะลอจากการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาท ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Fund flow) สัปดาห์ที่ผ่านมา (14-18 พ.ย.) ชะลอตัวตามคาดหลังการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาทลดทอนความน่าสนใจระยะสั้นในหุ้นและตราสารหนี้
โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 6,734 ล้านบาท และขายสุทธิตราสารหนี้ไทย 24,612 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองบวกระยะกลางในช่วง 3-6 เดือน
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่จะประกาศ ได้แก่ 1) GDP ไตรมาส 3/65 Bloomberg Concensus คาด +0.8% QoQ และ +4.5% YoY 2) ตัวเลขส่งออกต.ค. โดย Bloomberg Concensus คาดส่งออก +5.25% ขณะที่นำเข้าโต +10.50% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ประกอบกับการรายงานยอดส่งออกของหลายประเทศในเอเชียที่มีโอกาสอ่อนแอ (เกาหลี, ฮ่องกง, ไต้หวัน) ทำให้ยอดส่งออกไทย มีโอกาสต่ำคาดได้เช่นกัน
เทศกาลฟุตบอลโลก 2022 เริ่ม 20 พ.ย.-18 ธ.ค. ฟุตบอลโลกรอบนี้จัดขึ้นที่กาตาร์ ช่วงเวลาเริ่มการแข่งขันจะอยู่ที่ 17.00 ถึง 02.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงาน เรามีมุมมองระมัดระวังต่อกลุ่มร้านอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่อาจไม่ได้มีการถ่ายทอดสด หรือเป็นเป้าหมายของการใช้บริการพร้อมรับชม ขณะเดียวกันเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มค้าปลีก, สื่อโฆษณานอกบ้าน และเครื่องดื่ม อาทิ CPALL, MAKRO, VGI, PLANB, CBG, OSP, ICHI / สำหรับกลุ่มโทรทัศน์ ยังต้องติดตามว่าการถ่ายทอดสามารถเก็บค่านาทีโฆษณาได้หรือไม่
ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO 2) การขายไฟพลังงานมทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH 4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.) BAM, ERW, JWD, NEX, RAM 6) มีโอกาสเข้า SET50 ได้แก่ DELTA, RATCH, COM7, CENTEL
ภาพรวมกลยุทธ์: อาจผันผวนจากการปรับพอร์ตระยะสั้น มีแนวรับ 1,614 และ 1,605 จุด แต่ยังมองบวกภาพระยะ 3-6 เดือน ซึ่งหากผ่าน 1,655 จุด จะทำให้ภาพทางเทคนิคเปลี่ยนแปลงไปเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ เน้นกลุ่มหุ้นเปิดเมือง และบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ //หุ้นแนะนำ: ADVANC*, DMT*, CPALL*, STP*
แนวรับ: 1,605-1,614 / แนวต้าน : 1,623-1,628 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 9 - ลดลง 5.9% สู่ระดับ 4.43 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2554
IMF คาดไทย-จีนเป็นเพียง 2 ประเทศในเอเชียที่จีดีพีเป็นบวกปีนี้และโตเพิ่มปีหน้า - คาดการณ์ว่าจีดีพีที่แท้จริงของไทยในปี 2566 จะขยายตัว 3.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ของปี 2565 ส่วนจีดีพีที่แท้จริงของจีนนั้น IMF คาดว่าจะขยายตัว 4.4% ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.2% ในปี 2565
TLI ได้รับเข้าคำนวณ FTSE ALL World Index กลุ่ม Mild Cap – มีผล 16 ธ.ค. 65 คาดเม็ดเงินกองทุนต่างชาติเข้าลงทุน 80.6 ล้านดอลลาร์ฯ หรือ 3.9 พันล้านบาท
SET และ TFEX รับ บล. ลิเบอเรเตอร์ (LIB) เป็นสมาชิก เริ่มให้บริการ 21 พ.ย. นี้ - โดยใช้ชื่อย่อว่า "LIB" เป็นสมาชิกหมายเลข 21 โดยได้รับโอนสิทธิการเป็นสมาชิกจากบริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเน้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
Bloomberg รายงาน DAOL Investment & Securities เกาหลีใต้ เตรียมขายหุ้น – คิดเป็น 70% ใน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เหตุมีสถาบันการเงินขนาดใหญ่เกาหลี 3-4 แห่ง สนใจซื้อเพื่อต้องการรุกธุรกิจในประเทศไทย
NCL ยกเลิกเข้าลงทุน-ซื้อหุ้น AWS หลัง ก.ล.ต.สั่งระงับดำเนินกิจการชั่วคราว – บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) เปิดเผยว่ามีมติอนุมัติให้ยกเลิกการลงทุนในบริษัท AWS และยกเลิกสัญญาการซื้อขายหุ้นของ AWS ทั้งหมด
PRI เคาะราคา IPO 15 บาท/หุ้น – บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI) เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กำหนดระยะเวลาจองซื้อวันที่ 22-24 พ.ย.65
AURA เคาะราคา IPO 10.90 บาท/หุ้น - บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 21 - 23 พ.ย.65 และคาดเทรดวันแรก 29 พ.ย.65 โดยจะเป็นร้านขายปลีกทองรูปพรรณรายแรกที่เข้าจดทะเบียนใน SET
KLINIQ ติด Cash Balance – เริ่ม 21 พ.ย. – 9 ธ.ค. 65
ประเด็นติดตาม: 21 พ.ย. – TH GDP Q3 / 23 พ.ย. – FOMC Meeting Minutes, US Building Permits, US New Home Sales, Initial Jobless Claims / 24 พ.ย. - ECB Publishes Account of Monetary Policy
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)