ปรับสูงขึ้น ซื้อเก็งกำไร ADVANC CRC OSP

(สัญญาณยืนยัน คือ พุ่งขึ้นเหนือหรือหลุดแนวรับ 1,611 จุดตามลำดับ) ไฮไลท์วันนี้ อยู่ที่ Thailand: รายงาน 3Q22E GDP Growth คาด +0.9% QoQ +4.4% YoY (Vs 2Q22 +0.7% QoQ +2.5% YoY) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ หากออกมาดีกว่าคาดการณ์ ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ China Loan Prime Rate 1 ปี และ 5 ปี คาดคงเดิมที่ 3.65%/4.3%; Germany: รายงานดัชนีผู้ผลิตเดือน ต.ค. คาดเติบโตลดลง +41.5% YoY (Vs เดือน ก.ย. +45.8% YoY)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK TCAP BEM AOT BBL EA CPN MINT KTB TTB BDMS (ขาย BH และ KKP)

+ Daily Recommendations: ADVANC (Sentiment เชิงบวกจากประเด็นการเดินหน้าปิดดีลซื้อ TTTBB-JASIF จากความคาดหวัง Synergy ของการเข้าซื้อกิจการในอนาคต) CRC OSP (คาดรับประโยชน์จากการบริโภคที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่มีการถ่ายทอดสด World Cup 2022)

+/- FTSE Rebalance ประกาศวันที่ 18 พ.ย. มีผลต่อราคาปิดในวันที่ 16 ธ.ค. (+TLI)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022: CRC HMPRO BJC MAKRO CPALL OSP

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยลบ

- Fund Flows: สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 5 สัปดาห์ที่ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหุ้นไทย -6,734 ล้านบาท (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +14,090 ล้านบาท) เช่นเดียวกันตลาดอนุพันธ์ ที่นักลงทุนต่างชาติ กลับมาเปิด Short SET50 Index Futures เป็นครั้งแรกรอบ 5 สัปดาห์ ด้วยจำนวน -8,998 สัญญา (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +17,232 สัญญา)

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: 3Q22E GDP Growth คาด +0.9% QoQ +4.4% YoY (Vs 2Q22 +0.7% QoQ +2.5% YoY)

- Opportunity Day: SAPPE PIMO TSE SFT STC INET BIS ABM IVL NSL JWD TASCO

- China: Loan Prime Rate อายุ 1 ปี และ 5 ปี คาดคงเดิมที่ 3.65%/4.3%

- Germany: PPI เดือน ต.ค. คาด +41.5% YoY +0.9% MoM (Vs เดือน ก.ย. +45.8% YoY +2.3% MoM)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- น้ำมันดิบสหรัฐฯ และทองคำปิดลบ: การกลับมาแข็งค่าของเงิน USD +0.22% แตะ 106.96 (Vs วันก่อนหน้า 106.68) เนื่องจากยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 3.826% (Vs วันก่อนหน้า 3.79%) รับข่าวประธานเฟด สาขาบอสตัน Collins ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หลังจากไม่มีหลักฐานว่าแรงกดดันด้านราคากำลังปรับตัวลง และประธานเฟด สาขาแคนซัสฯ George กล่าวว่า เฟดอาจต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลง เพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบโลก WTI -USD1.56 ปิดที่ USD80.08/บาร์เรล Brent -USD2.16 ปิดที่ USD87.62/บาร์เรล และราคาทองคำปิดลบ -USD8.60 ปิดที่ USD1,754.40/บาร์เรล (โดยทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปิดลบต่อเนื่อง WTI -9.98% WoW Brent -8.72% WoW ส่วนราคาทองกลับมาปิดลบ -0.85% WoW)

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 1,610.75-1,622.03 จุด ตลอดการซื้อขาย ก่อนรีบาวนด์ปลายตลาดมาปิดที่ 1,617.38 จุด +2.43 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.95% พาณิชย์ +0.9% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +0.72% การแพทย์ +0.21% หุ้นบวก >4% HANA KCE MAKRO POLY ICHI SPACK SMT TEAM หุ้นลบ >4% DITTO FORTH TH CPR IIG TAKUNI TVI JTS BA KWI PLUS

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์กลับมาปิดบวก DJIA +0.59% S&P500 +0.48% Nasdaq +0.01% โดยได้แรงหนุนจากการปรับสูงขึ้นของหุ้นกลุ่ม Defensive (สาธารณูปโภค +2% อสังหาริมทรัพย์ +1.3% Health Care +1.2%) หลังจากประธานเฟด สาขาบอสตัน เตือนว่าเฟดอาจจำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพราะเงินเฟ้อยังไม่มีสัญญาณปรับลดลง และการปรับสูงขึ้นของหุ้น GAP +7.6% หลังรายงานผลกำไรดีกว่าคาด ส่วนทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดลบ DJ -0.01% WoW S&P500 -0.69% WoW Nasdaq -1.57% WoW ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวันศุกร์ ปิดบวก CAC40 +1.04% DAX +1.16% FTSE +0.53% นำขึ้นโดยกลุ่มค้าปลีกและรถยนต์ จากรายงานผลกำไรบจ. ที่ดีกว่าคาด (สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก CAC40 +0.76% WoW DAX +1.46% WoW FTSE +0.92% WoW)

 

ประเด็นสำคัญ

- IMF: ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า อุปสรรคด้านการค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับจีนและประเทศอื่น ๆ ในปีที่ผ่านมา อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกเหนือจากความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดจากการทำสงครามในยูเครน

- EU: ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจถึงขั้นต้องจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดย ชี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญของ ECB เหนือการลดบัญชีงบดุล

+ US: เฟด สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 4.2% ในไตรมาส 4 โดยต่ำกว่าระดับ 4.4% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้

+ Japan: รัฐบำลญี่ปุ่น เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานทั่วประเทศ ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด พุ่งขึ้น 3.6% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงที่สุดในรอบ 40 ปี เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยน ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานพุ่งสูงขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TRUE BJC MAKRO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ADVANC CRC OSP