ตัวเลขส่งออกที่ชะลอทำให้ต้องเพิ่มความระวังหุ้นอิงเศรษฐกิจโลก

แต่โมเมนตัมการส่งออกที่เริ่มชะลอตัวตั้งแต่มิ.ย.ถึงปัจจุบันยืนยันภาพการส่งออกของไทยเริ่มเผชิญความท้าทายของเศรษฐกิจโลก และสอดคล้องกับแนวโน้มการส่งออกของประเทศส่วนใหญ่ในเอเซีย สินค้าที่ยังมีโมเมนตัมการส่งออกที่ดี ได้แก่ ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง (+38% vs 10M65 ที่ +28%), มันสำปะหลัง (+26.3% vs 10M65 ที่ +15.3%), เครื่องดื่ม (+20.3% vs 10M65 ที่ +2.6%) // ขณะที่สินค้าที่โมเมนตัมชะลอลง ได้แก่ อาหารทะเล อาหารกระป๋องแปรรูป (+0.9% vs 10M65 ที่ +12.5%), อาหารสัตว์เลี้ยง (+4.8% vs 10M65 ที่ +20.74%), อัญมณีและเครื่องประดับ (+5.4% vs 10M65 ที่ +38.3%), เครื่องสำอาง (-4.9% vs 10M65 ที่ +9.0%)  // ส่วนกลุ่มที่โมเมนตัมที่เป็นลบเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา (-28.5% vs 10M65 ที่ -0.3%), ผลไม้สดและผลไม้แห้ง (-34.9% vs 10M65 ที่ -15.8%), สินค้าเกี่ยวกับน้ำมัน (-22.8% vs 10M65 ที่ +8.4%), เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ (-27.4% vs 10M65 ที่ -1.6%)
 

ประเด็นติดตามที่สำคัญ 1) สถานการณ์ในจีน แม้มีปัจจัยลบเรื่องการคุมโควิด แต่การออกมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีส่วนในการระงับวิกฤติจากการผิดนัดชำระ และช่วยแก้ความเสี่ยงของระบบการเงิน อาจเป็นปัจจัยบวกให้หุ้นจีนเคลื่อนไหวดีกว่าที่นักลงทุนคาด 2) สถานการณ์ระบาดของโควิดระลอกใหม่ อาจเป็นปัจจัยหนุนแรงเก็งกำไรในกลุ่มการแพทย์ โดยเฉพาะหุ้นที่ Laggard ช่วงที่ผ่านมาอย่าง BCH, CHG 3) การประชุม กนง. 30 พ.ย. คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นบวกกับธนาคาร แต่คาดกลุ่มการเงินที่ราคาปรับลดลงมาหนักแล้ว มีโอกาสฟื้นตัวเช่นกัน 4) น้ำมันดิบ ติดตามกาปรระชุมโอเปค 4 ธ.ค. และการเริ่มมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย 5 ธ.ค. 5) ไฟฟ้าพลังงานทดแทน กกพ.ขยายเวลายื่นเสนอโครงการไปถึง 30 พ.ย. (จากเดิม 25 พ.ย.) และเลื่อนวันประกาศผู้ป่านคุณสมบัติเป็น 9 ธ.ค. (จาก 2 ธ.ค.)
 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR  2) การขายไฟพลังงานมทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH 4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.) BAM, ERW, JWD, NEX, RAM และหุ้นเข้า FTSE (มีผล 16 ธ.ค.) ได้แก่ TLI และ PLUS 6) มีโอกาสเข้า SET50 ได้แก่ DELTA, RATCH, COM7 / มีโอกาสหลุด SET50 ได้แก่ SAWAD, BLA, KCE 7) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ STP, TNR, DMT, TVDH

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,614-1,635 กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ เน้นกลุ่มหุ้นเปิดเมือง และบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ กลุ่มที่ระยะสั้นมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นคือ 1) ไฟฟ้าและพลังงานทดแทนประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 9 ธ.ค. และ 2) กลุ่มธนาคาร จากคาดการณ์กนง. อาจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 30 พ.ย. 3) กลุ่มที่ยัง Laggard ในช่วงที่ผ่านมา //หุ้นแนะนำ: MAJOR*, TNR*, STP*, GUNKUL*

แนวรับ: 1,605-1,614 / แนวต้าน : 1,628-1,635 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

กสทช. เผย 5 บริษัทซื้อซองประมูลดาวเทียมแล้ว รอยื่น 27 ธ.ค. – บริษัท พร้อม เทคนิคคอล เซอร์วิสเซส จำกัด บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) และบริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัด เข้ามารับเอกสารการคัดเลือกสำหรับการประมูลสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) พร้อมลงนามในหนังสือตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูล (Non-disclosure Agreement : NDA) ขณะนี้มีผู้รับเอกสารการคัดเลือกแล้ว 5 ราย

PTT จ่อชงมติกพช.ดึงเงิน 6 พันลบ.ช่วยค่าไฟเข้าบอร์ด เพื่อจัดสรรรายได้จากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือนระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 66) มาช่วยสนับสนุนการลดต้นทุนค่าไฟฟ้า

กฟภ.เปิดขายพันธบัตรรุ่นใหม่อายุ 12 ปี ดอกเบี้ย 4% - ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2577 อายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.00 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุพันธบัตร จำนวนไม่เกิน 5,000,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 5 พันลบ. ให้ผู้ลงทุนสถาบัน ผ่านผู้จัดการจำหน่าย คือ ธนาคารออมสิน อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกพันธบัตร "AAA" แนวโน้ม "Stable" โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

Opportunity Day – 29 พ.ย. – GFPT, ITNS, MOONG, CNT, SC, PCC, WHA / 30 พ.ย. – HL, NCH, BYD, BGRIM, SGP, SAT, PDJ / 1 ธ.ค. LOXLEY, CPANEL, TTW, DEMCO, HARN, AIT, BCP / 2 ธ.ค. SENAJ, MEGA, APCO, DITTO, BAFS, SCN, DUSIT

ตลท.ให้ A5 ใช้ Cash Balance – ตั้งแต่ 29 พ.ย.-19 ธ.ค.

 

ประเด็นติดตาม: 29 พ.ย. - CB Consumer Confidence / 30 พ.ย. – TH Interest Rate Decision, EU CPI, US GDP Q3, JOLTs Job Openings, US Pending Home Sales, US Crude Oil Inventories / 1 ธ.ค. – US Core PCE Price Index, ISM Manufacturing PMI / 2 ธ.ค. – Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)