Food and Beverage เผชิญกับความท้าทายในการเติบโตปีหน้า
สรุปผลประกอบการ 3Q65 & 9M65 และแนวโน้มปี 2566
สรุปผลประกอบการ – ผลประกอบการของหมวดอาหารเกษตร และร้านอาหารดีที่สุด
อุปสงค์ Pent-up demand ที่เพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจเชนร้านอาหาร (AU M ZEN) ให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน 3Q65 และ ในงวด 9M65 ในขณะเดียวกัน ราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้นมากช่วยหนุนมาร์จิ้นและกำไรของกลุ่ม Food-agri (BTG CPF GFPT TFG) ให้ทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q65 และแข็งแกร่งตลอดงวด 9M65 ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มเครื่องดื่มอ่อนแอที่สุดเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นกดดันอัตรากำไรของ OSP และ CBG ในขณะที่อัตราการเติบโตของการส่งออกไปยังตลาด CLMV ลดลง แต่ผลการดำเนินงานของ SAPPE และ PLUS ดีขึ้นจากการส่งออกไปยังสหรัฐ และ EU รวมถึงเงินบาทที่อ่อนค่าลงยังช่วยให้อัตรากำไรดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของกลุ่มแปรรูปอาหารถูกกดดันจากอัตรากำไร (RBF และ XO) แต่อัตรากำไรของ SUN ดีขึ้นจากสินค้าพร้อมทาน (RTE)
ร้านอาหาร (Restaurant) - คาดว่ายอดขาย และ GPM จะดีขึ้นอย่างมากใน 4Q65 และในปี 2566
เนื่องจากอุปสงค์จากการเปิดเมืองที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนให้ SSSG ของ AU/M/ZEN ในงวด 9M65 อยู่ที่ 56%/50%/40% ซึ่งส่งผลให้ทั้งรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 4Q65F จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น (SSSG ของ AU/M/ZEN ในเดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ 30%/20%/3%) และ GPM ที่เพิ่มขึ้นเพราะต้นทุนลดลง (เนื้อสัตว์ และผักสด) โดยเฉพาะ AU ซึ่งการเติบโตอิงกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก ดังนั้น เราจึงคาดว่า SSSG ของ AU ในปี 2566 จะอยู่ที่ 14% ในขณะที่คาดว่าของ M และ ZEN จะอยู่ที่ 3% เท่ากัน ทั้งนี้ จากสมมติฐานที่เพิ่มขึ้น GPM (AU +4% ในขณะที่ M และ ZEN +3% เท่ากัน) เราจึงคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรของ AU จะอยู่ที่ 80% ในขณะที่ของ M จะอยู่ที่ 44% และของ ZEN ที่ 19%
อาหารเกษตร (Agricultural food) – ราคาเนื้อสัตว์เริ่มชะลอตัว ทำให้ท้าทายกับการโตปีหน้า
ถึงแม้ว่าราคาเนื้อสัตว์จะเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ ในขณะที่ต้นทุนเริ่มลดลง ดังนั้น เราประเมินคร่าว ๆ ว่ากำไรรวมของบริษัทในหมวดนี้จะลดลง 20% QoQ แต่จะฟื้นตัวขึ้น YoY ใน 4Q65F ยกเว้น CPF เนื่องจากฐานกำไรที่สูงใน 4Q64 จากดีลหุ้น MAKRO สำหรับในปี 2566 เราคาดว่า กำไรสุทธิของบริษัทส่วนใหญ่ในหมวดนี้จะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากคาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะลดลงในปี 2566F อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะยังสูงกว่าก่อน COVID ระบาดถึง 25% ในกรณีของราคาหมู และ 15% ในกรณีของราคาไก่ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายบริษัท เราคาดว่ากำไรสุทธิของ GFPT จะลดลงมากที่สุด (-8%) เพราะทำธุรกิจไก่เพียงอย่างเดียว แต่คาดว่ากำไรสุทธิของ CPF จะเพิ่มขึ้น 23%(กำไรปกติจะเพิ่มขึ้นถึง 46%) เพราะธุรกิจในต่างประเทศ และค้าปลีกฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
อาหารอุตสาหกรรม (Food manufacturing) – มองแนวโน้มการส่งออกแบบระมัดระวังมากขึ้นโดยเฉพาะการส่งออกไปยุโรป
เรามองแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการบริษัทอาหารอุตสาหกรรมในระยะต่อไปว่ามีทั้งบวกและลบ โดย XO ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากตลาดยุโรป (>80%) น่าจะถูกกดดันมากที่สุดจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงมากที่สุด ในขณะที่คำสั่งซื้อจากตลาดส่งออกของ SUN (ผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน) และ RBF (แป้งชุบทอด) ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งเพราะตลาดหลักของทั้งสองบริษัทอยู่ในเอเชีย เราคาดว่าอัตรากำไรของ RBF น่าจะดีขึ้นเนื่องจากราคาข้าวสาลีลดลง ในขณะเดียวกัน ผลประกอบการของ SUN น่าจะฟื้นตัวขึ้นจากที่ประสบปัญหาอุปทานข้าวโพดหวานขาดแคลนในปี 2565 และคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากสถานะป้องกันความเสี่ยงลดลง
Risks
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกผันผวน และอัตรากำไรเปลี่ยนแปลงไป.