Power Sector คู่มือลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้าปี 2023 – ของมันต้องมีเข้าพอร์ต

กลยุทธ์ – เกาะอยู่กับผู้เล่นรายใหญ่ในปี 2565

เราชอบผู้เล่นขนาดใหญ่มากกว่าขนาดเล็กในปี 2566 จากการเติบโตที่จะสูงกว่า, ความชำนาญที่หลายหลายมากกว่า, เครือข่ายธุรกิจกว้างขวางกว่า, งบดุลแข็งแกร่งกว่า และมี credit ratings สูงกว่า ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นรายใหญ่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีต้นทุนที่ดีกว่า ท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย และเงินเฟ้อ ทั้งนี้จากสามหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ เรามองว่า Gulf Energy Development (GULF.BK/GULF TB)* โดดเด่นสุดในแง่ของปัจจัยพื้นฐานที่เหนือกว่า รองลงมาคือ Global Power Synergy (GPSC.BK/GPSC TB)* และ B. Grimm Power (BGRIM.BK/BGRIM TB)* เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรุนแรง และตลาดมักจะซื้อเล่นสวนกับปัจจัยภายนอก

อะไรคือประเด็นเด่นที่น่าสนใจในปี 2566…?

i) PDPs ฉบับใหม่ของประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งถูกเลื่อนมาหลายรอบ น่าจะออกใน 1Q66 และ 1H66 ตามลำดับ เราคาดว่าจะสร้างสีสันให้กับกลุ่มฯในระยะสั้น และยังสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ด้วยโดยเฉพาะการเปิดรับพลังงานหมุนเวียน (RE) มากขึ้น เราคิดว่ากระแส carbon credit ในไทยยังอยู่ช่วงเริ่มต้นและน่าจะชัดเจนขึ้นในปี 2566 ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นที่เสะหา RE ได้ประโยชน์

ii) กำไรจะเพิ่มขึ้นในปี 2566 นำโดย GULF, RATCH และ EA โดยคาดว่าจะมีกำไรที่เติบโตสูงจากโครงการที่อยู่ใน pipeline ขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรของ GPSC และ BGRIM น่าจะฟื้นตัวแรงมากเช่นกัน โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญจะมาจากโครงการใหม่ ๆ, ราคาพลังงานที่ลดลง, การขึ้นค่า Ft, และการลดต้นทุน ทั้งนี้แม้ว่าราคาพลังงานจะมีแนวโน้มลดลงช้ากว่าที่คาด แต่เราคาดว่าการปรับขึ้นค่า Ft เป็นขั้นบันไดจะทำให้ GP กว้างขึ้นมาก ซึ่งจะนำโดยโรงไฟฟ้า SPP

iii) เรามองว่าปัจจัยภายนอกจะยังส่งผลดี นำโดยราคาน้ำมัน, อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB เราคาดว่าปัจจัยทั้งสามจะเป็นใจให้กับกลุ่มฯวิ่งได้ต่อในปี 2566

iv) ระดับน้ำลดลง YoY เราคาดว่าโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะแย่ลง YoY เนื่องจากมความน่าจะเป็นมากขึ้นที่จะเกิดปรากฏการณ์ El Niño (อากาศอุ่น) (จากที่เกิด La Niña อย่างรุนแรงในปี 2565) ซึ่งเราคาดว่า CK Power (CKP.BK/CKP TB)* น่าจะได้รับผลกระทบลบหนักที่สุด

 

 

 

Valuation and action

เรายังเลือก GULF เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มฯ เรามองว่าหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเหมาะกับธีม anticommodity, defensive และพลังงานสะอาด เราคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้จะยังคงได้อานิสงส์จากการถูก re-rate ตราบที่แผน PDP ฉบับใหม่ออกมา, ผลประกอบการปี 2566 กลับมาดี, ราคาพลังงานลดลง, กระแส carbon credit, และแรงส่งจากปัจจัยภายนอกยังเป็นไปตามที่เรามองเอาไว้

 

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย