วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (9 ม.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบทรงตัว จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว ท่ามกลางความกังวล
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาถูกลง ในขณะที่หุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลง และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
-/+ ตลาดยังคงกังวลกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังสหรัฐฯ รายงานกิจกรรมอุตสาหกรรมภาคบริการในเดือน พ.ย. หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ในขณะที่รายงานอีกฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงานอย่างแข็งแกร่งในเดือนธ.ค. ส่งผลให้อัตราการว่างงานกลับสู่ระดับต่ำสุดก่อนเกิดโรคระบาดที่ 3.5% เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงตึงตัว นอกจากนี้ตลาดหุ้นในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความคาดหวังของนักลงทุนที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดในไม่ช้า และจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 66
- ซาอุดีอาระเบียผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ปรับลดราคาน้ำมันดิบ Arab Light ที่ขายให้เอเชีย ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ พ.ย. 64 ท่ามกลางแรงกดดันจากทั่วโลกที่ส่งผลกระทบกับอุปสงค์น้ำมัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่ากับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของเวียดนาม และคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนที่จะเพิ่มสูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 8.26 % แตะระดับ 8.34 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 สัปดาห์ นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากจีน