วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ม.ค. 66)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ม.ค. 66)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังเศรษฐกิจจีนโตมากกว่าที่คาด

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัว 3% ในปี 2565 ซึ่งมากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.8% นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 ปี 2565 ตัวเลข GDP ของจีนขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.8% นอกจากนี้ มีความคาดหวังที่ว่าการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid) ของจีนในเดือน ธ.ค. 2565 จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์ของน้ำมันเชื้อเพลิง

+ ตลาดได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับลดลง 0.1% มาที่ระดับ 102.4 เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก อื่นๆ

- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน ก.พ. 2566 และมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ในเดือน มี.ค. 2566 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

 ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ ตามตลาดน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงจากอุปสงค์ที่ลดลงในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากอินเดีย


ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้ และไต้หวัน นอกจากนี้ จีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของอุปสงค์ในตลาดเอเชีย
 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ม.ค. 66)