CPF - 4Q ถูกกระทบจากผลขาดทุนของสินทรัพย์ชีวภาพ

เรามองว่าความเสี่ยงหลักคือราคาหมูที่ลดลงในปีนี้ คงคำแนะนำ ถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 27 บาท

 

ราคาเนื้อสัตว์เฉลี่ย 4Q เพิ่มขึ้น yoy แต่อ่อนตัวลงช่วงปลาย 4Q

ราคาหมูเฉลี่ยใน 4Q ของประเทศไทย และเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 101.67 บาท/กก. (+31% yoy, -1% qoq) และ VND52,487/กก. (+26% yoy, -16% qoq) ส่วนในประเทศจีน ราคาหมูเฉลี่ยใน 4Q เพิ่มขึ้นเป็น CNY31.27/กก. (+37% yoy, +6% qoq) ในขณะที่ราคาไก่ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 44.33 บาท/กก. (+34% yoy, -4% qoq) ถึงแม้ว่าราคาหมูเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น yoy แต่เราคาดว่า CPF จะต้องบันทึกผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ 1.05 พันล้านบาท จากราคาหมูที่ลดลงเมื่อสิ้นงวด 4Q22 เมื่อเทียบกับปลาย 3Q22 (300 ล้านบาทสำหรับุรกิจฟาร์มหมูในประเทศไทยและ 750 ล้านบาทจากธุรกิจในเวียดนาม) นอกจากนี้ เรายังคาดว่าบริษัท CTI ในประเทศจีนก็จะมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพอีกประมาณ 650 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ผ่านส่วนแบ่งกำไร (equity profit) จากบริษัทในเครือ

 

 

 

 

คาดว่ากำไรใน 4Q จะลดลงเพราะผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ

เราคาดว่ายอดขายใน 4Q จะลดลง 4% qoq เป็น 1.54 แสนล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะขยับเพิ่มขึ้น qoq เป็น 15.5% จาก 15.0% ใน 3Q22 ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q22F จะลดลง 19% qoq เหลือ 4.2 พันล้านบาท เนื่องจากผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ

 

ความเสี่ยงหลักคือราคาหมูที่ลดลงในปีนี้

ปัญหาขาดแคลนหมูในจีนและเวียดนามทำให้ราคาหมูอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องมา 13-15 เดือนแล้วนับตั้งแต่จุด peak ซึ่งสอดคล้องกับวงจรการผลิตหมูที่ใช้เวลา 350 วัน ดังนั้น เราจึงคาดว่าราคาหมูในประเทศจะลดลงใน 2H23 เนื่องจากมีอุปทานใหม่เพิ่มเข้ามา นอกจากนี้ราคาหมูในประเทศจีนยังลดลงอย่างมากต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า CNY20/กก.

 

คงคำแนะนำ ถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 27 บาท

เราปรับลดประมาณการกำไรปี FY22F ลง 21% เหลือ 1.45 หมื่นล้านบาท หลังจาก 1) ปรับลดสมมติฐานราคาไก่ในประเทศลง 2) ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี FY22F ลงจากเดิมที่ 15.0% เหลือ 14.5% และ 3) ปรับลดส่วนแบ่งกำไร (equity profit) ในปี FY22F ลงจาก 4.9 พันล้านบาท เหลือ 3.0 พันล้านบาท ทั้งนี้ เราประเมินราคาเป้าหมาย CPF โดยใช้วิธี SoTP