TOP ผลประกอบการ 4Q65: เป็นไปตามประมาณการ
กำไรสุทธิของ TOP ใน 4Q65 อยู่ที่ 147 ล้านบาท (-97% YoY, +1,154% QoQ) โดยกำไรเต็มปี 2565 อยู่ที่ 3.27 หมื่นล้านบาท (+160% YoY) ซึ่งเป็นไปตาม Bloomberg consensus และประมาณการของเรา
นอกจากนี้ TOP ยังประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H65 ที่ 1.70 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 23 กุมภาพันธ์ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเต็มปีที่ 6.6% จากราคาหุ้นในปัจจุบัน (รวมเงินปันผล 2.00 บาท/หุ้นในงวด 1H65)
กำไรใน 4Q65 ลดลง 97% YoY แต่พุ่งขึ้นถึง 1,154% QoQ
กำไรที่ลดลงอย่างมาก YoY แต่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก QoQ เป็นเพราะบริษัทมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 7.1 พันล้านบาทใน 4Q65 จากที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 3.3 พันล้านบาทใน 4Q64 และจากที่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 9.0 พันล้านบาทใน 3Q65
ปัจจัยสำคัญที่น่าสนใจ
i) ผลประกอบการของธุรกิจโรงกลั่นดีขึ้น QoQ ใน 4Q65 เนื่องจากผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิลดลงและ market GRM ดีขึ้น โดยบริษัทมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 7.1 พันล้านบาท ดีขึ้น QoQ จากที่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมันถึง 9.0 พันล้านบาทใน 3Q65 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบร่วงลงมาจาก US$91/bbl ในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ US$77/bbl ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ market GRM ของ TOP เพิ่มขึ้น 39% QoQ เป็น US$9.3/bbl เนื่องจาก spread ของน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุน crude premium ลดลง ในขณะที่อัตราการกลั่นลดลง 1% QoQ เหลือ 283KD คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 103%
ii) ผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีแย่ลง QoQ เพราะ spread ของ BZ-over-ULG95 หดตัวลง 43% QoQ เหลือ US$24/ton และ spread ของน้ำมันหล่อลื่น 500SN ลดลง 2% QoQ เหลือ US$780/ton ถึงแม้ว่า spread ของ PX-over-USK95 จะดีดตัวขึ้น 17% QoQ เป็น US$171/ton นอกจากนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตของสาย aromatics ยังลดลง QoQ จาก 70% เหลือ 67% ในขณะเดียวกันอัตราการใช้กำลังการผลิตของสาย lube base ลดลง QoQ จาก 86% เหลือ 43%
เพราะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานน้ำมันหล่อลื่นตามกำหนดเป็นเวลาหนึ่งเดือน
iii) Chandra Asri (CAP) ส่งผลขาดทุนสุทธิมาที่ TOP 201 ล้านบาท จากที่ส่งผลขาดทุนสุทธิ 351 ล้านบาทใน 3Q65 เพราะ spread ของ PE ยังอ่อนแอใน 4Q65
iv) สำหรับรายการพิเศษ TOP มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.7 พันล้านบาท ดีขึ้น QoQ จากที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.7 พันล้านบาทใน 3Q65 หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.37 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 4Q65
v) Accounting GIM ฟื้นตัวขึ้น QoQ จาก –US$0.7/bbl เป็น US$1.5/bbl ใน 4Q65 แต่หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน market GIM ของ TOP จะเพิ่มขึ้น 26% QoQ เป็น US$11.1/bbl
Valuation
เรายังคงคำแนะนำซื้อ TOP โดยยังคงราคาเป้าหมายปี 2566 เอาไว้ที่ 69.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 6.5x เราเชื่อว่าผลประกอบการที่ดีขึ้น QoQ ใน 4Q65 และค่าการกลั่นที่สูงขึ้นใน 1Q66 จะช่วยหนุนราคาหุ้น โดยเรายังคงเลือก TOP เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงาน
Risk
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงการเลื่อนกำหนด COD ของโครงการ CFP จาก 3Q66 เป็นปี 2567