วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (21 ก.พ. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังนักวิเคราะห์หลายสำนัก (Wood Mackenzie, FGE, Energy Aspects และ S&P Global) คาดการณ์ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบในจีนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นราว 0.5 - 1.0 บาร์เรลต่อวัน และอาจแตะระดับสูงสุดกว่า 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีนี้ จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดช่วงก่อนหน้า 

+ อินเดีย ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับสามของโลก เผยตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ม.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 19.96 ล้านตัน สูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจีนและอินเดียยังคงเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียรายใหญ่ หลังรัสเซียยังคงถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกและถูกกำหนดเพดานการซื้อขายน้ำมันดิบ

+ ตลาดยังคงจับตาอุปทานน้ำมันดิบในตลาดที่อาจปรับตัวลดลง หลังรัสเซียมีแผนปรับลดกำลังการผลิตในเดือน มี.ค. 66 ลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราวร้อยละ 5 ของกำลังการผลิตของรัสเซีย เพิ่อตอบโต้การกำหนดเพดานราคาจากชาติต่างๆ
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์การใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าฤดูกาลขับขี่ ขณะที่ตลาดยังคงจับตาการส่งออกน้ำมันเบนซินจากตะวันออกกลางและอินเดีย

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดดีเซลในยุโรปที่อ่อนตัวจากสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้ความต้องการใช้ในการผลิตความร้อนปรับลดลง และสต็อกอยู่ในระดับสูง