Transportation Sector - ยังไม่มีสัญญาณว่าการจราจรจะแผ่วลง
BEM และ BTS เผชิญอุปสรรคที่แข็งแกร่งจากทางการ โดย BEM เผชิญความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หลังจากที่คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันปฏิเสธที่จะอนุมัติโครงการ
ส่วน BTS ก็ถูกตรวจสอบว่าสัญญา O&M เส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน เรามองว่าผลประกอบการของทั้งสองบริษัทในปีนี้น่าจะดีขึ้นตามปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เพราะเราคาดว่า BEM มี downside จากความเสี่ยงที่เกี่ยวกับทางการน้อยกว่า BTS
กลุ่มขนส่งกำลังเผชิญความเสี่ยงจากทางการมากขึ้น
ในส่วนของ BEM การถูกประกาศว่าเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในปีที่แล้วไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะได้เซ็นสัญญาโครงการนี้ เพราะในการประชุมเมื่อวานนี้ คณะรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะอนุมัติโครงการนี้ เนื่องจากยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีอยากให้ศาลมีคำตัดสินออกมาก่อนจึงค่อยอนุมัติให้โครงการนี้เดินหน้าต่อ ซึ่งหมายความว่าการอนุมัติโครงการนี้จะถูกส่งต่อไปให้รัฐบาลหน้า ซึ่งกรอบเวลาที่เร็วที่สุดที่โครงการนี้จะได้รับการอนุมัติคือเดือนกรกฎาคม 2023 ส่วนในกรณีของ BTS ก็ถูกเลื่อนเซ็นสัญญาเช่นกัน เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำลังตรวจสอบว่าสัญญา O&M เส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดย BTS ออกมาชี้แจงข้อกล่าวหาได้ค่อนข้างชัดเจน และน่าเชื่อถือ เราเชื่อว่าประเด็นค้างคาในเรื่องนี้จะกดราคาหุ้นเอาไว้จนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน ซึ่งอาจจะลากยาวไปจนอีกสามปีข้างหน้า
ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับทางการเพิ่มขึ้น แต่กำไรจะยังเพิ่มขึ้นในปี 2023
ในขณะที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับทางการเพิ่มขึ้น แต่เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2023 จะยังเพิ่มขึ้นจากการจราจรที่เพิ่มขึ้น เรามองว่าปัจจัยพื้นฐานของทั้ง BEM และ BTS ยังคงแข็งแกร่ง โดยปริมาณรถใช้ทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้ากำลังเพิ่มขึ้นทั้งคู่ ซึ่งจากข้อมูลของ BEM ทั้งปริมาณรถใช้ทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าในเดือนมกราคม 2023 เพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq ส่วนในกรณีของ BTS ซึ่งดำเนินการทั้งเส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายก็น่าจะมีการเติบโตในทำนองเดียวกัน ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของทั้งสองบริษัทจะพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2023
เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท
เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม และแนะนำซื้อ BEM (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) และ BTS (ราคาเป้าหมาย 10 บาท) แต่จากประเด็นความเสี่ยงเกี่ยวกับทางการ เรามองว่า BEM ปลอดภัยที่จะเข้าลงทุนมากกว่า BTS เพราะต่อให้ไม่ได้เซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ราคาเป้าหมายของเราจะลดลงเพียง 1 บาทเท่านั้น (หรือ 10%) แต่ในกรณีของ BTS การตรวจสอบสัญญา O&M ของทั้งเส้นทางหลักและส่วนต่อขยายจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งการดำเนินงานและมูลค่าของหุ้น BTS โดยเราประเมินว่ามูลค่าของสัญญา O&M อยู่ที่ 3.60 บาท/หุ้น (หรือ 36% ของราคาเป้าหมายของเรา)