ออกข้าง หุ้นรายงานพิเศษ VIBHA (19 เม.ย. 2566)

ออกข้าง หุ้นรายงานพิเศษ VIBHA (19 เม.ย. 2566)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค เนื่องจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงจึงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานจากแรงขาย PTTEP, PTTGC และ BANPU

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,593.85 จุด -6.56 จุด -0.41% มูลค่าการซื้อขาย 39,891.84 ลบ. ต่างชาติ -2,873.02 ลบ. TFEX -17,635สัญญา ตราสารหนี้ -4,265.35 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ +0.04% ปิดที่ 80.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1/2566  อย่างไรก็ดี ตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
+จีนรายงานว่า GDP ขยายตัว 4.5%YoY ใน 1Q66 แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 4% หลังจากที่มีการขยายตัว 2.9% ใน 4Q65
+ กระทรวงท่องเที่ยวฯ เผยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 10-16 เม.ย.2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เที่ยวพุ่ง 4.6 แสนคน สะสมตั้งแต่ต้นปีแตะ 1.06 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศแล้วกว่า 2.24 แสนล้านบาท

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 10.55 จุด หรือ -0.03% หลังจากธนาคารโกลด์แมน แซคส์ รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังใน 1Q66 ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
-นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง ก่อนพักการดำเนินการด้านดอกเบี้ยเพื่อพิจารณาถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการที่เฟดใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน
- วอลล์สตรีท เจอร์นัล ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวัง หลังศาลรัสเซียไม่อนุญาตให้มีการประกันตัวนายอีแวน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ในข้อหาจารกรรมข้อมูลลับให้แก่รัฐบาลสหรัฐ
- สหรัฐ เปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.8% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.42 ล้านยูนิต แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.40 ล้านยูนิต

 

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อดูแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ย ส่วนในประเทศยังรอการประกาศงบ 2Q66 ของกลุ่มธนาคาร มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,585-1,600 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
• หุ้นปันผลดี : ADVANC TISCO SCB PT SMIT
• จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโอเปคพลัสลดกำลังการผลิต : PTTEP TOP PTT SPRC BCP
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
• โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

VIBHA – “เก็งกำไร” Bloomberg Consensus 2.85 บาท
“มองเป็นกลางต่อแนวโน้มกำไรปี 66 แต่ระยะสั้นมีโอกาสได้อานิสงส์จากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่”

•งวด 4Q65 มีกำไร 214 ลบ. -69%YoY -32%QoQ โดยมีรายได้ 1,991 ลบ. -23%YoY –13%QoQ โดยหดตัวแรง YoY เนื่องจากรายได้กลุ่มโควิด-19 ที่หายไปจากปีก่อนราว 600 ลบ. และทำให้มีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม 29 ลบ. จากปีก่อนมีส่วนแบ่งกำไร 258 ลบ. ขณะที่รายได้หดตัว QoQ เนื่องจากผ่านพ้นช่วง High Season สะท้อน %EBITDA ที่ปรับลงสู่ 25.7% (4Q64 = 42.1%, 3Q65 = 28.9%) อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะรายได้จากการรักษาพยาบาลปกติอยู่ที่ 1,879 ลบ. +7%YoY -2%QoQ ทั้งนี้ รายได้และกำไรทั้งปี 65 อยู่ที่ 9,057 ลบ. +15%YoY และ 1,323 ลบ. -27%YoY

•คาดแนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 หดตัว YoY จากฐานสูงในปีก่อนที่มีรายได้โควิด-19 แต่คาดจะดีขึ้น QoQ จากจำนวนผู้ป่วยปกติทั้ง OPD และ IPD ที่มีแนวโน้มโตดีขึ้น ประกอบกับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ ช่วยหนุนชาวจีนเข้ามาทำ IVF มากขึ้น โดยเราคาดผลประกอบการ 1H66 จะอ่อนตัว YoY จากฐานสูง แต่จะดีขึ้นในช่วง 2H66 เป็นต้นไป จากการเทียบกับฐานช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้โควิด-19 น้อย ประกอบกับได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นอัตราค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ค. 66 เป็นต้นไป ซึ่ง VIBHA และรพ.ในเครือ มีสัดส่วนรายได้ประกันสังคมรวมราว 22%

ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 66 ที่คาดจะอ่อนแอลง YoY จากฐานสูง โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 1,011 ลบ. -26%YoY อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับตัวลง 8% จากราคาสูงสุดเมื่อช่วงต้นปี สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยระยะสั้นมีโอกาสได้อานิสงส์จากโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดเร็ว แต่ยังไม่พบความรุนแรง แนะนำ “เก็งกำไร”

 

หุ้นมีข่าว

(+) ORI (Bloomberg consensus 13.85 บาท) ชูต่างชาติดันตลาดอสังหาคึกคัก แห่ซื้อคอนโดแน่น ล่าสุดทุนจีนดอดซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ดิ ออริจิ้น พัทยา 1 ตึก 8 ชั้น มูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 11 โครงการ ไตรมาส 2 มูลค่ารวม 12,520 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TSR (Bloomberg consensus 4.50 บาท) แย้มยอดขายไตรมาสแรกปี 2566 สุดปัง! ดีมานด์น้ำดื่มสะอาดพุ่ง ผุดไอเดียคลอดน้ำดื่ม น้ำอัลคาไลน์บรรจุขวด เล็งขายยกแพ็กกระจายทุกสาขาทั่วประเทศ ปูพรมรับออเดอร์ลูกค้า รับจ้างผลิต-โมเดิร์นเทรดเพิ่ม จับตากลางปีแตกไลน์ทำแอร์โซลาร์ ปักธงรายได้ปีนี้แตะ 4 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BGRIM (Bloomberg consensus 47.00 บาท) เปิดตัวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2566 ชูจุดเด่นบริการแบบครบวงจร และรูปแบบการลงทุนหลากหลาย ช่วยให้ผู้ประกอบการอาคาร หรือโครงการต่างๆ มีทางเลือกมากขึ้น ตั้งเป้าติดตั้ง 100 หัวชาร์จภายในปี 2566 พร้อมรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) POLY (Bloomberg consensus 8.50 บาท) รับอานิสงส์ค่ายรถญี่ปุ่นเปลี่ยนโมเดล-กระแสอีวี หนุนออเดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์ทะลัก บิ๊ก "กาญจนา เหลารัตนา" ปักเป้าปี 2566 รายได้ทะยาน 15% แถมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่มระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)