ผันผวน หุ้นรายงานพิเศษ SABINA (25 เม.ย. 2566)
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในช่วงแคบ มีแรงซื้อในหุ้น DELTA หลังจากครบกำหนด ระยะเวลาซื้อ-ขาย ด้วยบัญชี Cash Balance ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญแรงขาย จากการที่ปรับตัวขึ้นมาเมื่อวันทำการก่อนหน้า โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,557.87 จุด -0.49 จุด -0.03% มูลค่าการซื้อขาย 35,491 ลบ.ต่างชาติ -681.55 ลบ. TFEX +9,963 สัญญา ตราสารหนี้ +2,911.10 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 66.44 จุด หรือ +0.20% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง GDP และดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ +1.14% ปิดที่ 78.76 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว
+ กลุ่มผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเปิดเผยว่า สหภาพผู้ขนส่งของอาร์เจนตินายุติการประท้วงที่กำลังส่งผลกระทบต่อการขนส่งธัญพืชของอาร์เจนตินาแล้ว
+ กกพ.เคาะยืนมติค่าไฟงวดพ.ค.-ส.ค. ที่ 4.70 บาท/หน่วย สรุปลดลงแค่ 2 สตางค์/หน่วย ด้านกฟผ.แบะท่า ลุ้นค่าไฟ ก.ย.-ส.ค. หารือกันอีกครั้ง
+ ธปท. ประเมินว่าภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจน คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของประชาชน
ปัจจัยลบ
- ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย ปรับตัวลง 0.5% เนื่องจากข้อพิพาทระหว่างจีนและหลายประเทศ โดยล่าสุดญี่ปุ่นออกมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัย 23 ชนิดให้กับจีน ซึ่งเป็นการเข้าร่วมกับสหรัฐในการสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงชิปที่ทันสมัย เนื่องจากกังวลว่าจีนอาจใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหาร
- ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะคง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
- Bed Bath & Beyond ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายมื่อวันอาทิตย์อาทิตย์ที่ผ่านมา (23 เม.ย.) หลังจากประสบความล้มเหลวในการระดมเงินทุนเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อไป
- รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กลายเป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเป้าหมายทางการทหาร
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังรอดูตัวเลข PCE สหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,550-1,565 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
• จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
• โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH
หุ้นรายงานพิเศษ
SABINA (Bloomberg Consensus 30.00 บาท)
“คาดปี 66 เติบโตต่อเนื่อง”
•รายงานรายได้และกำไรปี 65 ที่ 3.17 พันลบ. และ 417 ลบ. +20.4%YoY และ +41.8%YoY ตามลำดับ โดยรายได้ที่เติบโตมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงจาก 48.9% สู่ 48.0% เนื่องจากสัดส่วนยอดขาย Retail Non store retail และ OEM ปี 64 เปลี่ยนจาก 63:26:11 สู่ 65:24:11 ในปี 65 ด้าน SG&A/Sales ปี 65 ปรับตัวลงจาก 35.3% สู่ 32.0%
•ผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 10-15% สู่ 3.49-3.65 พันลบ. ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการช้อปดีมีคืน ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวขึ้นจาก 48.0% สู่ 50.0% เนื่องจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย นอกจากนี้ยังเน้นขยายธุรกิจไปยังฟิลิปปินส์หลังซื้อ MODA INC. (SABINA ถือหุ้น 80%) ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ โดยตั้งเป้าขยายสาขาจาก 36 สาขาสู่ 47 สาขา และตั้งเป้ารายได้จากฟิลิปปินส์ราว 50 ลบ. เติบโต 43%YoY
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 1Q66 โดยคาดว่าจะเติบโต QoQ และ YoY เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากมาตรการช้อปดีมีคืนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งการ Rebranding และการออกคอลเลคชั่นใหม่ อาทิ Braless และ SABINA KIDS ใน 1Q66-2Q66 เป็นตัวหนุนให้ปี 66 เติบโต 10-15% ตามแผน ทั้งนี้ราคาหุ้นมี upside อีก 15% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(0) ZIGA (Bloomberg consensus - บาท) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าบริษัท เมอร์ลินตั้น อินโนเวชั่น จากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.98% ดำเนินธุรกิจเพื่อการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับ Digital Technology ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท และ จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เนื่องจากไม่มีการดำเนินธุรกิจและเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยการปิดบริษัทย่อยดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่อย่างใด (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ORI (Bloomberg consensus 13.85 บาท) จับมือพันธมิตรทางธุรกิจกับ "เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์" หรือ EnCo บริษัทในกลุ่ม ปตท. ลุยพัฒนาโปรเจ็กต์ โรงแรม "ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง" รับกระแสนักลงทุนต่างประเทศ-นักท่องเที่ยว คัมแบ็ก พร้อมเสริมศักยภาพทำเล ผลักดันให้เป็น New CBD ของระยอง คาดเปิดให้บริการไตรมาส 2/2566 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TSR (Bloomberg consensus 4.50 บาท) เปลี่ยนชื่อเป็น "บมจ.สบาย คอนเน็กซ์ เทค หรือ SBNEXT" ด้าน "วรานนท์ คงปฏิมากร" ระบุพร้อมเดินหน้า Synergy กับ SABUY ต่อยอดธุรกิจ เตรียมขยายไลน์สินค้าเพิ่มทั้ง Air Solar และ EV Charger ปักหมุดรายได้ปีนี้แตะ 4 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MOSHI (Bloomberg consensus 51.70 บาท) บอร์ดไฟเขียวเข้าซื้อสินทรัพย์ร้านค้าส่งของ บจก.ดิโอเค สเตชั่น เพื่อขยายอาณาจักรค้าส่งในตลาดสำเพ็ง และจะใช้เป็นสาขาของบริษัท รวมถึงช่วยเสริมแกร่งธุรกิจ เพิ่มฐานลูกค้า ตอกย้ำผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย (ที่มา ทันหุ้น)