วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 พ.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือน เม.ย. สูงกว่าเดือน มี.ค. ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและวิกฤตธนาคาร อีกทั้งนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในการประชุมนโยบายในเดือน มิ.ย.
+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ค. ปรับลดลง 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 588 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 4 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 157 แท่น ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.
+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 0.13% แตะระดับ 101.19 ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาถูกลง
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคจะปรับตัวลดลง ในขณะที่อุปทานจากไต้หวันปรับเพิ่ม หลังจากเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงโรงกลั่น
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับลดลง 3.24 % ต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 แตะระดับ 7.79 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 9 สัปดาห์