วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (12 พ.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับลด หลังการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ในวันอังคารที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องมีการหารือรอบ 2 ในวันศุกร์นี้อีกครั้ง โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ขอให้สภาคองเกรสขยายเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ของรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาที่แพงขึ้น
+ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบของจีนในปี 2566 ขึ้น 8 แสนบาร์เรลต่อวัน จากที่คาดในเดือนที่ผ่านมาว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 7.6 แสนบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 3.2 ล้านบาร์เรล รวมถึงอุปทานในฟิลิปปินส์ที่ลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงเดือน พ.ค.
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังผู้ผลิตน้ำมันดีเซลในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วนกำลังพิจารณาแผนปรับลดการผลิตลง เพื่อให้สอดคล้องกับอุปสงค์ที่เริ่มทรงตัว