ติดตามเจรจาเพดานหนี้สหรัฐ (16 พ.ค. 2566)
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนี Sideway Down ต่อเนื่อง ประเด็นความกังวลจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ประกอบกับแรงขายในหุ้นที่เสียประโยชน์จากนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง หุ้นที่ปรับตัวลงแรง เช่น หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า พลังงาน ค้าปลีก และไอซีที
โดยสภาพัฒน์ มีการรายงาน GDP Q1/66 โต 2.7% ดีกว่าตลาดคาด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,541.38 จุด -19.97 จุด -1.28% มูลค่าการซื้อขาย 68,383 ลบ. ต่างชาติ -691.15 ลบ. TFEX -32,683 สัญญา ตราสารหนี้ +1,008.24 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 47.98 จุด +0.14% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตลดลงสู่ระดับต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ นักลงทุนจับตาการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนและผู้นำสภาคองเกรส
+ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐเชื่อมั่นว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงการขยายเพดานหนี้วงเงิน 31.4 ล้านล้านดอลลาร์
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ +1.5% ปิดที่ 71.11 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัวในแคนาดาและทั่วโลก อย่างไรก็ดี แต่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐได้สกัดแรงบวก
+ วันนี้ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินจำนวน 2.5 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ระบบธนาคารผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว
+ สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย 1Q 66 ขยายตัว 2.7% เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 1.4% จากการท่องเที่ยวฟื้นและการบริโภคเติบโต โดยยังคาดการณ์ GDP ปี 66 ในกรอบ 2.7-3.7%
ปัจจัยลบ
- ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผย แผนบริหารจัดการหนี้เงินกู้โควิดจำนวน 1.5 ล้านล้านบาท ว่าการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงิน โควิด-19 ทั้ง 2 ฉบับ วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท กู้จริงประมาณ 1.46 ล้านล้านบาท วันที่ 30 เม.ย.66 ชำระคืนแล้วประมาณ 94,000 ล้านบาท คงเหลือหนี้คงค้าง 1.35 ล้านล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยตลาดจับตาการเจรจาเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ว่าจะสามารถฝ่าด่าน 250 ส.ว. สู่การเป็นนายกฯได้หรือไม่ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,530-1,550จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW SPA
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
• หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Equity Indexes เข้า MAKRO ออก JMT, TU และ MSCI Small Cap Indexes เข้า JMT, TIDLOR, SAPPE, SISB ,TU ออก – มีผลวันที่ 31พ.ค.
หุ้นรายงานพิเศษ
OR (Bloomberg Consensus 26.00 บาท)
ผลประกอบการ 1Q66 พลิกกลับมากำไร
•รายงานกำไร 1Q66 ที่ 2.98 พันลบ. -23%YoY แต่ดีขึ้นจาก 4Q65 ที่มีผลขาดทุน โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจสถานีจำหน่ายน้ำมันที่ค่าการตลาดปรับตัวขึ้น 110%QoQ จาก 0.48 บาทต่อลิตรสู่ 1.01 บาทต่อลิตรตามราคาน้ำมันที่เริ่มสร้างฐานทำให้ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันลดลง ขณะที่ปริมาณจำหน่ายอ่อนตัวลงเล็กน้อย 3%QoQ สู่ 3.19 ล้านลิตรเนื่องจากผ่านช่วง High Season ด้านธุรกิจ Life Style ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยตามปริมาณการขาย Café Amazon ที่ทรงตัวในระดับสูง 91 ล้านแก้วเนื่องจากเริ่มเข้าฤดูร้อน
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2Q66 เนื่องจากคาดว่าค่าการตลาดจะทรงตัวในระดับสูงหลังภาครัฐอนุญาตให้มีการปรับเพิ่มค่าการตลาดตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและเทศกาลหยุดยาวเป็นตัวหนุนต่อปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มเติม เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) AAV (Bloomberg consensus 3.50 บาท) โหลดแฟคเตอร์เดือนเมษายน 2566 สูงกว่า 90% และช่วง 15 วันแรกของเดือนพฤษภาคม 2566 ทรงตัวสูงระหว่าง 80-90% เดินหน้าลุยตลาดจีนเต็มรูปแบบ จัดโปรโมชั่นร่วมงานแฟร์ เปิดเส้นทางบินเพิ่มความถี่ในการบินต่อสัปดาห์ มั่นใจคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (ที่มา ทันหุ้น)
(-) TU (Bloomberg consensus 17.20 บาท) หั่นเป้าปีนี้ยอดขายโต 3-4% จากปีก่อน หลังค่าเงินเปลี่ยน ทำรายได้ส่งออกลด ผู้บริหาร "รตินันทน์ วงศ์วัชรานนท์" มองทิศทางโค้งสองฟอร์มแจ่ม รับดีมานด์ฟื้นตัวออเดอร์ไหลเข้า พร้อมควักงบ 6-6.5 พันล้านบาท อัพฐานธุรกิจเพิ่ม ปูทางโกยเงินระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IMH (Bloomberg consensus 19.00 บาท) บอสใหญ่ IMH โดดรับอานิสงส์ก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมให้บริการตามนโยบายตรวจสุขภาพประจำปี แถมรับสิทธิบัตรทอง-ประกันสังคม เชื่อรัฐบาลใหม่เตรียมเม็ดเงินอัดฉีดเพิ่ม ล่าสุดคว้างานตรวจสุขภาพพนักงานโลตัสกว่า 3 หมื่นคน เล็งซื้อกิจการโรงพยาบาลเพิ่ม 1 แห่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CHAYO (Bloomberg consensus 10.50 บาท) ลั่นครึ่งแรกปี 2566 NPL ไหลเข้าระบบสูงกว่า 1.5 แสนล้านบาท ยังเหลือประกาศผล TOR อีกกว่าแสนล้านบาท คาดไม่เกินไตรมาส 3/2566 เห็นความชัดเจน กำเงิน 2 พันล้านบาท รอช็อป NPL ใหม่เติมพอร์ต ด้าน NPA เกาะยาวใหญ่ เตรียมเร่งลูกค้าชำระยอดที่เหลือ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท คงเป้าผลงานปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 25% (ที่มา ทันหุ้น)