SAPPE ยังเติบโตได้ต่อ (23 พฤษภาคม 2566)
หลังจากที่บริษัทประกาศกำไรใน 1Q66 โตถึง 79% QoQ และ YoY (จากรายได้ และมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น) บริษัทเผยว่าโมเมนตัมการโตกำไรในไตรมาสที่สองและสามน่าจะสูงต่อเนื่องตามปัจจัยฤดูกาล
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตัวเลขภายในของ 1Q66 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 47% QoQ และ 49% YoY เนื่องจากยอดส่งออกไปยัง EU เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 126% YoY ในขณะที่การส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ในเอเชีย สหรัฐ และตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นในระดับเท่า ๆ กันที่ประมาณ 45% YoY นอกจากนี้ บริษัทเผยว่าโมเมนตัมยอดขายยังมีแนวโน้มดีขึ้นในฝรั่งเศส และโตเร่งตัวขึ้นในอังกฤษด้วย ดังนั้น การส่งออกไป EU จึงคิดเป็น 20% ของรายได้รวม (เพิ่มขึ้นจาก 13% ของรายได้ในปี 2565)
กำลังการผลิตตึงตัว แต่ยังบริหารจัดการได้
เนื่องจากกำลังการผลิตตึงตัว โดยอัตราการใช้กำลังการผลิต (CAPU) อยู่ที่ 85% ในช่วงพีค บริษัทจึงปรับกำลังการผลิตด้วยการ 1) ย้ายสายการผลิตสำหรับธธุรกิจในประเทศไปใช้บริษัทรับจ้างผลิตภายนอดแทน 2) ปรับแต่งเครื่องจักร ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตส่วนเพิ่มประมาณ 30% และจะสามารถทำให้รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 40-45% สำหรับในระยะยาว บริษัทจะเพิ่มสายการผลิตใหม่อีก 1 แห่งภายใต้โรงงานเดิมในปี 2567 และสร้างโรงใหม่แล้วเสร็จปี 2568 เพื่อรองรับ 3 สายการผลิตใหม่
มาร์จิ้นทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตจะถูกกดดันจาก 1) ราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น 2) มาร์จิ้นของลดลงจากการใช้ OEM ภายนอกผลิตสินค้า 3) ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น แต่ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ลดลง (มีสัดส่วนสูงที่สุดในต้นทุนการผลิต) จะทำให้บริษัทสามารถชดเชยแรงกดดันทางด้านต้นทุนส่วนเพิ่มได้ นอกจากนี้ CAPU ที่เพิ่มขึ้นยังน่าจะช่วยให้มาร์จิ้นของบริษัทบริหารจัดการได้ดีขึ้น ทั้วนี้เราใช้สมมติฐาน GPM ปี 2566/2567F ที่ 42% (จาก 43.2% ใน 1Q66)
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566F/2567F 16%/19% และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2566F เป็น 84.50 บาท
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566F/2567F ขึ้นเพื่อสะท้อนถึง i) การปรับเพิ่มอัตราการเติบโตของรายได้เป็น 30%/27% (จากเดิม 27%/27%) ii) การปรับเพิ่ม GPM เป็น 42%/42% (จากเดิม 41%/41%) ทั้งนี้ เรา re-rate PE เป็น 28x (จากเดิม 25x) ของประมาณการกำไรปี 2566 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2566 ใหม่ที่ 84.50 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 66.00 บาท เรายังคงคำแนะนำซื้อ SAPPE
Risks
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน, เสียตำแหน่งทางการตลาดไป, และแรงกดดันทางด้าน margin pressure