BANKING SECTOR - สินเชื่อหดตัวในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
พอร์ตสินเชื่อธนาคารหดตัวลงในเดือนเมษายน 2023 และยังอยู่ในแดนลบ ytd ซึ่งสาเหตุสำคัญตอนนี้ไม่ใช่เพราะปัจจัยฤดูกาลแล้ว แต่ข้อมูลสะท้อนอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง
ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มนาคารน่าจะได้แรงส่งจาก NIM ที่ดีขึ้น แต่โมเมนตัมการขยายตัวของสินเชื่อที่แผ่วลงอาจจะเป็นอุปสรรคของกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นยังมี valuation upside อีกมากและแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการยังดูดีกว่าอุตสาหกรรมอื่น เราจึงยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ OVERWEIGHT โดยเลือก SCB (ราคาเป้าหมาย 160 บาท) และ BBL (ราคาเป้าหมาย 180 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม
สินเชื่อหดตัวลงอีกในเดือนเมษายน
ธนาคารขนาดใหญ่เจ็ดแห่งรายงานยอดสินเชื่อหดตัวลง 0.1% mom ในเดือนเมษายน 2023 และลดลง 0.8% ytd โดยสินเชื่อของ TISCO ขยายตัวมากที่สุดในกลุ่มในช่วงเดือนเมษายน ที่ 3.2% ในขณะที่พอร์ตสินเชื่อของ BBL และ TTB ลดลงมากที่สุดที่ 1.3% ทั้งคู่ทั้งนี้ เมื่อเทียบ ytd สินเชื่อของ KKP ขยายตัวได้ดีสุดที่ 4.5% รองลงมาคือ TISCO 3.8% ytd ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อหดตัวมากที่สุดคือ BBL ลดลง 3.0% ytd และ TTB ปรับตัวลง 2.7% ytd เรามองว่าธนาคารต่าง ๆ จะเผชิญความท้าทายมากขึ้นในการที่จะขยายยอดสินเชื่อให้ได้ตามเป้า โดยเฉพาะ BBL และ TTB ซึ่งทั้งสองธนาคารตั้งเป้าอัตราขยายตัวของสินเชื่อปี FY23 เอาไว้ที่ 4%
อุปสงค์สินเชื่ออ่อนแอในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
เราอาจจะพอโทษได้ว่าโมเมนตัมสินเชื่อในช่วงต้นปี เดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ถูกฉุดโดยปัจจัยฤดูกาลจากการที่มีบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ชำระเงินสินเชื่อคืน แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยอดสินเชื่อที่แผ่วลงต่อเนื่องในเดือนมีนาคมและเมษายน เรามองว่าไม่ใช่เรื่องของปัจจับทางฤดูกาลแล้วและนี้ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก เมื่อพิจารณาข้อมูลลึกลงไปเราจะพบว่าอุปสงค์สินเชื่อจริงๆแล้วเริ่มแสดงภาพที่อ่อนแอมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 แต่ภาพไม่ยังไม่ชัดมาก ซึ่งประจวบกับเป็นช่วงที่ ธปท. เริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 ดังนั้น เราจึงมองว่าการขึ้นดอกเบี้ย M-rates รอบนี้เหมือนเศรษฐกิจยังไม่พร้อมเพราะไม่เพียงแต่จะกระทบกิจกรรมทางธุรกิจให้ชะลอตัว แต่ยังผลักให้บริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งหันไปหาแหล่งเงินทุนอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่าอย่างเช่นการออกหุ้นกู้แทน
แนวโน้มดูท้าทายมากขึ้นจากโมเมนตัมสินเชื่อที่แผ่วลง
เรามองว่าแนวโน้มของกลุ่มธนาคารดูท้าทายมากขึ้น เพราะนอกจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลงจะฉุดภาคการผลิตและส่งออกของไทยแล้ว ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นยังกระทบกับกิจกรรมทางธุรกิจ และผลักให้ภาคธุรกิจหันไปหาแหล่งเงินทุนอื่นแทนสินเชื่อธนาคาร ถึงแม้ว่ากลุ่มธนาคารจะได้แรงส่งจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหลายระลอก แต่โมเมนตัมการเติบโตของสินเชื่อที่แผ่วลงอาจจะเป็นตัวฉุดรั้ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นยังมี upside อีกมากและแนวโน้วมการเติบโตของผลประกอบการของกลุ่มธนาคารปีนี้ยังถือว่าดีกว่ากลุ่มอื่น เราจึงยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ OVERWEIGHT โดยเลือก SCB (ราคเป้าหมาย 160 บาท) และ BBL (ราคาเป้าหมาย 180 บาท) เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคาร