Healthcare Sector เราชอบโรงพยาบาลใหญ่มากกว่า

Healthcare Sector เราชอบโรงพยาบาลใหญ่มากกว่า

สรุปผลประกอบการ 1Q66 และแนวโน้มธุรกิจโรงพยาบาล

ผลการดำเนินงานใน 1Q66 มีทั้งดีขึ้น และแย่ลง

สำหรับผลการดำเนินงานใน 1Q66 บริษัทในกลุ่มโรงพยาบาลที่เราวิเคราะห์มีกำไรสุทธิรวม 5.64 พันล้านบาท (-27.5% YoY, +0.7% QoQ) ซึ่งในภาพรวม โรงพยาบาลขนาดใหญ่มีกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากการกลับมาเปิดประเทศ ในขณะที่โรงพยาบาลขนาดเล็กถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการที่รายได้จากการรักษา COVID-19 ลดลงอย่างมากหลังจากที่ COVID ระบาดหนักในปีที่แล้ว ทั้งนี้ ผลประกอบการของแต่ละบริษัทเป็นดังนี้

• Bangkok Chain Hospital (BCH.BK/BCH TB)* - กำไรสุทธิใน 1Q66 อยู่ที่ 254 ล้านบาท (-87.5% YoY, -5.9% QoQ).

• Bangkok Dusit Medical Services (BDMS.BK/BDMS TB)* - กำไรสุทธิใน 1Q66 สูงเกินคาดที่ 3.47 พันล้านบาท (+0.8% YoY, +11.5% QoQ)

• Bumrungrad Hospital (BH.BK/BH TB)* - กำไรสุทธิใน 1Q66 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.58พันล้านบาท (+118.4% YoY, +2.4% QoQ)

• Chularat Hospital (CHG.BK/CHG TB)* - กำไรสุทธิใน 1Q66 ไม่น่าตื่นเต้นที่ 240 ล้านบาท (-82.3% YoY, -15.8% QoQ)

• Ekachai Hospital (EKH.BK/EKH TB) - กำไรสุทธิใน 1Q66 อยู่ที่ 78 ล้านบาท (+5.2% YoY,-77.8% QoQ)

• Ladprao Hospital (LPH.BK/LPH TB) - กำไรสุทธิใน 1Q66 ออกมาอ่อนแอที่ 17 ล้านบาท (-88.8% YoY, -57.4% QoQ)

 

 

เรายังชอบโรงพยาบาลใหญ่มากกว่าสำหรับ 2Q66 และ 2H66

สำหรับในระยะต่อไป เรายังคงคาดว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ (BDMS และ BH) จะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งกว่าโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างรายได้ (จำนวนผู้ป่วยต่างชาติ, ผู้ป่วยที่ไม่เกี่ยวกับ COVID, platform โรงพยาบาล, ขั้นของการลงทุนในโรงพยาบาล) สำหรับแนวโน้มในระยะสั้น เราคาดว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาลโดยรวมจะยังเป็นไปในแนวเดียวกับใน 1Q66 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการของโรงพยาบาลขนาดเล็กจะแข็งแกร่งขึ้น YoY ใน 2H66F เนื่องจากจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ลดลงอย่างมากใน 2H65 ทั้งนี้ เราคิดว่าจำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกำไรของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ตลอดปีนี้

 

โรงพยาบาลขนาดเล็กยังดูไม่น่าตื่นเต้นใน 2Q66F

เมื่ออิงจากผลประกอบการใน 1Q66 เราพบว่าทั้งรายได้และกำไรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ YoY ตามที่เราคาดไว้ ซึ่งสาเหตุสำคัญคือมีการรักษา COVID-19 น้อยลง เรายังคงคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลขนาดเล็กส่วนใหญ่จะยังคงไม่น่าตื่นเต้นใน 1H66 ซึ่งหมายความกำไรใน 2Q66F มีแนวโน้มจะอ่อนแอ YoY อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบวกจากการที่รายได้จากกลุ่มที่ไม่เกี่ยวกับ COVID กลับมาสูงเกินระดับก่อน COVID ระบาดในปี 2562 นอกจากนี้ โรงพยาบาลขนาดเล็กที่มีรายได้จากสำนักงานประกันสังคม (SSO) ยังจะได้อานิสงส์จากการที่ SSO ปรับเพิ่มอัตราค่าเหมาจ่ายรายหัวขึ้นอีก 10% ตั้งแต่
เดือนพฤษภาคม 2566 ด้วย

 

 

 

Valuation & Action

เรายังมองบวกกับกลุ่มโรงพยาบาล i) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และ ii) platform โรงพยาบาลที่แข็งสำหรับผู้ป่วยในประเทศ ทั้งกลุ่มที่ชำระเงินสด และประกันสังคม เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Overweight โดยยังคงเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2023 ที่ 36.50 บาท

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าเกินคาด