วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (13 มิ.ย. 66) ราคาน้ำมันดิบ ปรับลด
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (13 มิ.ย. 66) ราคาน้ำมันดิบ ปรับลด หลังอุปสงค์น้ำมันของจีนมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่อุปทานน้ำมันของรัสเซียได้รับผลกระทบ
วิเคราะห์สถานการณ์ ราคาน้ำมัน (13 มิ.ย. 66)
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันดิบ
- ราคาน้ำมันดิบ ปรับลด หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน เดือน พ.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดกังวลต่ออุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซียซึ่งส่งออกไปยังจีนและอินเดีย ทำจุดสูงสุดใหม่ในเดือน พ.ค. 66
- Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เดือน ธ.ค. 66 มาอยู่ที่ระดับ 86 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงจากเดิมที่ 95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสที่ปรับลดจากระดับ 89 สู่ 81 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากปัจจัยความกังวลต่ออุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากรัสเซีย อิหร่านและเวเนซุเอลา
+ ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) เดือน พ.ค. ซึ่งจะประกาศในค่ำคืนนี้ โดยตลาดคาดอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มย่อตัวลงจากครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 4.9% มาอยู่ที่ 4.1% สอดคล้องกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งตลาดให้น้ำหนักกว่า 80 % ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00 – 5.25%
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าของเวียดนาม ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่งมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกของจีนซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.9 – 1 ล้านตัน ในเดือน มิ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของจีนในไตรมาส 3 มีแนวโน้มปรับลดลง หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต เดือน เม.ย. และ พ.ค. ต่ำกว่า 50 แสดงถึงเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง