วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การปรับลด EPS เป็นปัจจัยจำกัด
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,552/1,548 จุด (EMA 10/25 วัน) แนวต้าน 1,566/1,570 จุด (EMA 75 วัน) หลังจากดัชนีฯ เกิดการปรับฐาน (อ่อนตัวลง 2 วัน) หลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,569.34 จุด โดยคาดว่าแรงขายรอบใหม่จะเพิ่มขึ้น หากดัชนีฯ หลุดแนวรับสำคัญ 1,548 จุด
ประเด็นวันนี้: ดัชนี SET มีความเสี่ยงเข้าสู่โหมดย่อตัว หลังหมดปัจจัยหนุน แม้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัยที่นักลงทุนคาดหวัง EPS ของหุ้นในกลุ่ม Tech จะมีการเติบโตสูงเพราะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI (40% ของผลสำรวจผจก.กองทุนโลกล่าสุด เชื่อว่าเทคโนโลยี AI ช่วยหนุนผลกำไรเติบโตสูง และกำลังกลายเป็นกระแสว่าใครพลาดการลงทุน มีความเสี่ยงตกรถ) เพื่อมาชดเชย Valuation ที่แพงในวันนี้ ซึ่งสวนทางกับ EPS ของหุ้นไทยที่ถูก Downgrade ลงถึง 5% นับตั้งแต่เริ่มประกาศงบไตรมาส 1 (วันที่ 18 เม.ย.) (Figure 1) แต่ดัชนีฯ กลับปรับตัวสูงขึ้น จึงส่งผลให้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยล่าสุด เข้าสู่โซน Overbought (Figure 2) ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ผนวกกับตลาดหุ้นไทยไม่ใช่เป้าหมายลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ (ไม่มีหุ้นเทคฯ และมีความเสี่ยงการเมือง) เกิดการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนกำลังลง ทั้งตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น (Figure 3) รวมไปถึงสัญญาณจากเครื่องมือ KTX USDTHB Carry Trade ที่อ่อนแอลงเช่นกัน เป็นความเสี่ยงที่จะเข้ามาจำกัด Upside ของดัชนี SET ในสัปดาห์นี้ ส่วนในระยะยาว ความเสี่ยงทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย ผนวกกับ เศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น จะเป็นแรงขับเคลื่อนดัชนี SET ฟื้นตัวในระยะถัดไป หนุนโดยแรงซื้อจากนักลงทุนประเภทระยะยาว (Smart Money)
กลยุทธ์ลงทุน: แนะนำ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” (Buy on Weakness) จากแนวโน้มดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบ 1,530-1,570 จุด (Trading band) จนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวขึ้นของ EPS อีกครั้ง แนะนำ เก็งกำไรหุ้น Domestic play พื้นฐานดี และมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ได้แก่ MINT WHA TCAP
Strategic daily picks
MINT ปิด 34.75 บาท/แนวรับ 33.50 บาท แนวต้าน 36.00 บาท
Consensus ประมาณการกำไรปกติปี 2023 ที่ 4.8 พันล้านบาท (+137% YoY) จากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยและยุโรป อีกทั้งยังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 2Q23 จะฟื้นตัวเด่น QoQ หนุนจากโรงแรมในยุโรป หรือ NHHOTEL ซึ่งเป็นรายได้หลักของกลุ่มเข้าสู่ High season
WHA ปิด 4.66 บาท/แนวรับ 4.50 บาท แนวต้าน 4.80 บาท
Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 4.0 พันล้านบาท (+9% YoY) คาดกำไรจะขยายตัวตามการย้ายฐานการผลิตออกนอกจีน ส่งผลบวกต่อไทยและเวียดนาม ส่วนในระยะสั้น คาดจะได้ Sentiment เชิงบวกเพิ่มเติม หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่ม WHA เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่เข้าคำนวณในดัชนี SET50 งวด 2H23
TCAP ปิด 49.25 บาท/แนวรับ 48.00 บาท แนวต้าน 52.00 บาท
Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023E ที่ 5.94 พันล้านบาท (+14% YoY) ด้วยปัจจัยขับเคลื่อน 1) เบี้ยรวมของธนชาตประกันภัยที่คาดโตขึ้น 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2023 2) สินเชื่อใหม่ของ THANI ที่ 3.0 หมื่นล้านบาท และ 3) สินเชื่อรวมของธนชาตพลัสที่ 6 พันล้านบาท อีกทั้ง ยังคาดว่าปี 2023 จะยังคงจ่ายเงินปันผลในระดับสูงต่อเนื่องที่ 3.10 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 7%