วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GLOBAL ยังมีอุปสรรคท้าทายอยู่

แต่ราคาปัจจุบันก็ยังสูงกว่าช่วงก่อน COVID ~40% ทั้งนี้ อุปสงค์เหล็กปี 2566F-2567F คาดฟื้นตัวเล็กน้อยท่ามกลางภาวะราคาอ่อนแอ (อิงจากสมาคมเหล็กโลกคาดการณ์อุปสงค์เหล็กปี 2566F เพิ่มขึ้น2.3% และปี 2567F เพิ่มที่ 1.7% นำโดยอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กแต่อุปสงค์อาจถูกกดกันจากภาวะดอกเบี้ยสูง) นอกจากนี้ รายได้ภาคเกษตรของไทยอาจลดลง
จากเป็นผลจากสภาพอากาศแห้งแล้ง (El Nino) โดยอิงจากการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (ENSO forecast) ของ Columbia Climate School International Research Institute for Climate and Society ว่ามีโอกาสถึง 80% ที่จะเกิดปรากฏการณ์ El Nino ในอีกห้าเดือนข้างหน้า (Figure 4) ซึ่งจะกดดันต่อรายได้ภาคเกษตร ทั้งนี้ รายได้ภาคเกษตรของไทยเดือนเมษายน 2566 เพิ่มขึ้น 4% YoY หรือเป็นนัยว่า 4M66 เพิ่มขึ้น 6% YoY (Figure 3) ทั้งนี้ หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปจะทำให้เกิดการเบิกจ่ายภาครัฐล่าช้าด้วย

 

 

ประมาณการกำไร 2Q66F : คาดลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดกำไรสุทธิ 2Q66F ของ GLOBAL ที่ 808 ล้านบาท (-22% YoY และ -9% QoQ) กดดันจากราคาเหล็กอ่อนแอและผลจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนรายได้ คาดลดลงอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท (-5% YoY และ -2%QoQ) ท่ามกลางรายได้ในสาขาเดิม (Same Store Sales :SSS) ลดลง -8% (จากผลของราคาเหล็กอ่อนแอเป็นหลัก) ขณะที่ราคาเหล็กเส้น 2Q66 ลดลง 21% YoY ทั้งนี้ เมื่อส่วนผสมของยอดขายอุปกรณ์ก่อสร้างและราคาเหล็ก 2Q66F อ่อนตัวยังกดดัน margin ลดลงเหลือ 24.8% (-1.6ppts YoY และ -0.2ppts QoQ).

 

 

คาดกำไร 2H66F ยังไม่น่าตื่นเต้น

เราคาดกำไร 2H66F ของ GLOBAL ยังไม่น่าตื่นเต้น โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญจาก i) ปกติครึ่งปีแรกจะเป็นช่วงที่ทำกำไรได้มากกว่าครึ่งปีหลัง ii) ความเสี่ยงของราคาเหล็กอ่อนแอ และ iii) อุปสงค์ชะลอตัวจากแนวโน้มรายได้ภาคเกษตรอ่อนตัวและการเบิกจ่ายภาครัฐล่าช้า

 

Valuation & action

เราคงแนะนำ “ถือ” และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 19.00 บาท อิงจาก PER ที่ 29.0x (-0.5 S.D.)

 

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ,สินค้าค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก