กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ กลับเข้าโหมดไซด์เวย์ หลังปรับฐานลงมา

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ กลับเข้าโหมดไซด์เวย์ หลังปรับฐานลงมา

ตลาดหุ้นไทยน่าจะทรงตัวหลังปรับลดลงมาระดับหนึ่ง แต่ในภาพรวมยังคงต้องระมัดระวังในสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยตกหนักเกินคาดจากเหตุผลสามข้อ

ข้อแรกคือ DELTA* ซึ่งเป็นหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่มีน้ำหนักกับตลาดมากตกลงมาแรงหลังจากที่ตลาดใช้เกณฑ์คุมการซื้อขาย ซึ่งทำให้นักลงทุนเป็นห่วงว่าหุ้น DELTA อาจจะหลุดจากดัชนี SET50 ในปีหน้า ข้อสองคือ ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงกดดันมากขึ้น หลังจากที่ประธาน Fed ส่งสัญญาณว่า FOMC อาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ ในขณะที่แรงกดดันในยุโรป และอังกฤษอาจจะสูงกว่าที่คาดเอาไว้ ข้อสามคือ ปัจจัยการเมืองไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ก่อนการประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภา และนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ในสัปดาห์นี้ (26-30 มิถุนายน) เราคาดว่าดัชนี SET จะทรงตัว โดยอาจจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบ ๆ ในสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดย่อลงมาใกล้ระดับจิตวิทยาที่ 1,500 จุด และขยับมาใกล้ระดับที่เรามองว่าเป็น downside ใน 3Q66 ที่ประมาณ 1,480 จุด ดังนั้น เราจึงมองว่าราคาหุ้นไม่น่าจะแกว่งตัวลงไปได้อีกมากนักในระยะสั้น นอกจากนี้ นักลงทุนสถาบันยังอาจจะเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้นในช่วงปลาย 2Q66 ในขณะที่ traders บางรายหวังว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นของสภาวะการเมืองไทยในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เมื่อมีการเลือกประธานสภาแล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพใหญ่ของตลาดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเรายังคงระมัดระวังกับแนวโน้มดัชนี SET จากโอกาสที่จะมีการชุมนุมประท้วงในเดือนกรกฎาคม และแนวโน้มหลักของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง

 

 

ติดตามตลาดแรงงาน และดัชนี PCE ของสหรัฐ และ ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของไทย

ปัจจัยต่างประเทศ: ในสัปดาห์นี้ มีสองประเด็นสำคัญทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องจับตา ได้แก่ i) การขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรงลงมาในระดับหนึ่งแล้ว และ ii) ดัชนีเงินเฟ้อ PCE เดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่า core PCE จะอยู่ที่ 4.7% YoY เท่ากับเมื่อเดือนเมษายน ทั้งนี้ core inflation ของสหรัฐยังไม่ยอมลงมาง่าย ๆ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สมาชิก FOMC ยังส่งสัญญาณว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนต่อ ๆ ไป

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจมาตรฐานประจำเดือนพฤษภาคม อย่างเช่น การนำเข้า/ส่งออกที่ผ่านพิธีศุลกากร, ดัชนี MPI และข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท. ซึ่งดังที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าสถานการณ์ทางการเมืองยังคงมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่รัฐสภาจะเลือกนายกคนใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการชุมนุมประท้วงตามมาได้

 

ยังเกาะตามธีมกลยุทธ์ตลาดใน 3Q66

เนื่องจากเรามองว่าตลาดน่าจะพักฐานต่อ และเรายังมองสถานการณ์การเมืองในเดือนนี้แบบระมัดระวัง  ดังนั้น เราจึงยังคงเกาะตามธีมการลงทุนหลักสี่ธีมที่เราออกแบบมาสำหรับกลยุทธ์การลงทุนใน 3Q66 ซึ่งได้แก่ อัตราดอกเบี้ยในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ธนาคารพาณิชย์เร่งขาย NPLs ออกจากงบดุล, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน, จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก และหุ้นบางตัวในกลุ่มอาหารแปรรูป ทั้งนี้ หุ้นเด่นของเราได้แก่ BBL*, JMT*, IVL*, SCGP*, AAV*, ERW, GFPT และ SUN