กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ มีโอกาสฟื้นตัวต่อ
ตลาดน่าจะปรับขึ้นต่อ จากความหวังของตลาดว่าอาจมีการเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาล ในสัปดาห์ที่แล้ว (10-14 กรกฎาคม) ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าที่เราคาดเอาไว้
เนื่องจาก i) ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนของสหรัฐ ทั้ง CPI และ PPI ออกมาต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดเอาไว้และช่วยยืนยันมุมมองของเราว่า Fed อยู่ในช่วงท้ายของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว ii) นักลงทุนมีความคาดหวังมากขึ้นว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วในการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคก้าวไกลอาจจะถูกผลักให้กลายไปเป็นฝ่ายค้าน ดังนั้น ตลาดจึงคลายความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะมีการออกนโยบายที่ไม่เป็นมิตรกับเศรษฐกิจ และตลาด สำหรับปัจจัยภายนอก แนวโน้มของ Fed สร้างแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งนับเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย
สำหรับในสัปดาห์นี้ (17-21 กรกฎาคม) เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะขึ้นต่ออีกจากเหตุผลดังต่อไปนี้ ข้อแรก กระแสข่าวการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์เพิ่มความน่าจะเป็นในการจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่าทางพรรคพร้อมจะสนับสนุน candidate นายกจากพรรคเพื่อไทยถ้าเขาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอที่จะเป็นนายก ข้อสอง รับของการชุมนุมประท้วงทางการเมืองตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วค่อนข้างเบา และอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ดังนั้น ผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจึงน่าจะจำกัด ข้อสาม ภาวะตลาดโลกยังคงเป็นบวก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มั่นใจว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม และจากนั้นจะคงดอกเบี้ย
ติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐ, ตัวเลขที่อยู่อาศัย และผลการเลือกนายกรัฐมนตรีของไทย
ปัจจัยภายนอก: สัปดาห์นี้เป็นช่วง blackout period ของ FOMC ก่อนการประชุม Fed ในสัปดาห์หน้า ดังนั้น ผู้บริหาร Fed จึงไม่มีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ นักลงทุนควรติดตามยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายน (18 กรกฎาคม) และตัวเลขที่อยู่อาศัยรายเดือนสองสามตัวที่จะประกาศออกมาในวันที่ 19-20 กรกฎาคม โดยรวมแล้วมุมมองตลาดโลกในระยะสั้นของเราคือความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจจะ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นต่อได้อีก
ปัจจัยภายใน: การเมืองไทยจะยังคงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดในสัปดาห์นี้ โดยวันที่ 19 กรกฎาคม จะเป็นวันสำคัญที่รัฐสภาจะตัดสินเลือกนายกรัฐมนตรี เรามองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะตกลงเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน หลังจากที่นายพิธา ได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาไม่เพียงพอในการลงมติรอบแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ทั้งนี้ หากนายเศรษฐา ได้รับเสียงสนับสนุนไม่มากพอ ก็มีโอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทยจะสลับขั้วไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบันเพื่อตั้งรัฐบาล
การเก็งกำไรระยะสั้นยังเน้นหุ้นที่อ่อนไหวกับนโยบาย และ global cyclical plays
เนื่องจากมุมมองในกรณีฐานของเราคืออาจจะมีการเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจึงควรเกาะอยู่กับหุ้นกลุ่มที่ก่อนหน้านี้ถูกกดดันจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกล อย่างเช่น GULF*, CPALL*, TRUE*, OR*, CPN* และ CRC* นอกจากนี้ เรายังมองบวกกับหุ้น global cyclical plays ในระยะสั้น จากตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคโลกที่เป็นบวก อย่างเช่น ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ลดลง, ข้อมูลเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดี และความหวังของนักลงทุนว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้ หุ้นที่เราชอบตามธีมนี้ได้แก่ PTTEP*, IVL* และ SCGP*