วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ LH คาดกำไร 2Q23F ฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ

ดีมานด์อ่อนแอในไตรมาส 2/66 จากวันหยุดยาวช่วงเม.ย.-พ.ค และความผันผวนด้านการเมืองระหว่างเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล พรีเซลครึ่งปีแรกคาดที่ 9 พันลบ. (-42%YoY) คิดเป็น 26% เป้าทั้งปีที่ 3.5 หมื่นลบ. เราตั้งข้อสังเกตุว่า LH เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ยอดขายลดลงมากสุดในตลาด การเปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 20%ของเป้าทั้งปีที่ 3.5 หมื่นลบ.

 

เราคาดกำไร 2Q23F จะโต 6%QoQ มาที่ 1.4 พันลบ.

แม้พรีเซลไตรมาส 2/66 จะต่ำเป็นประวัติการณ์แต่เราคาดรายได้จากการขายจะลดลงบ้างQoQมาที่ 4.7 พันลบ.จาการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่ 3.6 พันลบ. รายได้จากโรงแรมและค่าเช่าคาดเติบโตระดับเลข 2 หลักต้นๆ QoQ อีกทั้งเราคาดมาร์จิ้นของอสังหาและโดยรวมจะยังคงต่ำระดับ 29%/30% ใกล้เคียงกับไตรมาส1/66 กำรไรน่าจะมาที่ 1.43 พันลบ. (+6% QoQ, -33% YoY) กำไรครึ่งปีแรกคาดว่าจะลดลง 23.5% มาที่ 2.9 พันลบ. หรือ 34% ของประมาณการณ์ทั้งปีของเรา (Figure 3)

 

 

 

ปรับลดประมาณการณ์ปี 2566-67 ราว 10% ต่อปี

จากผลงานครึ่งปีแรกที่อ่อนแอ เราปรับลดรายได้อสังหาฯปีนี้ราว 12% มาอยู่ที่ 2.6 หมื่นลบ. (-16% YoY) และลดมาร์จิ้นราว 0.5ppts เรายังคงรายได้จากโรงแรมและค่าเช่า มาที่ 7.2 พันลบ. (+48% YoY) และกำไรจากการขายทรัพย์สินที่ 1 พันลบ. เราประมาณการณ์กำไรที่ 7.8พันลบ. (-6% YoY) ปีนี้ แต่คาดว่าจะเติบโตได้ 12% YoY ในปีหน้าที่ 8.7 พันลบ. (Figure 1)

 

Valuation & action

เราคาดไตรมาส 1/66 จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอสุดของปีนี้ การฟื้นตัวในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะอยู่ประมาณ 6% QoQ สำหรับไตรมาส 3/66 เรามองว่าโมเมนตัมกำไรจะดีขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY ไตรมาส 4/66 น่าจะเป็นพีคของปีนี้โดยรวมผลกำไรจากการขายทรัพย์สินเข้าไปด้วย ราคาเป้าหมายใหม่ของเราใช้วิธี SOTP อยู่ที่ 9.1บาท (ธุรกิจหลักที่ 4.8 บาท และพอร์ตเงินลงทุนที่ 4.3 บาท) โดยมีอัพไซด์ที่ 7% จากราคาปัจจุบัน ปรับลดคำแนะนำเป็น Neutral จาก Outperform (Figure 2)

 

 

 

Risks

ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอและโอกาสการปฎิรูปนโยบายจากภาครัฐ