วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน และขนส่ง ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่มีการ Sell on Fact หลังจากประกาศผลการดำเนินงาน นอกจากนี้นักลงทุนยังติดตามประเด็นทางการเมือง คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ในวันที่ 27 ก.ค. นี้
หลังจากที่ก้าวไกล เปิดโอกาสให้ "เพื่อไทย" เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,529.25 จุด +8.07 จุด +0.53% มูลค่าการซื้อขาย 51,702 ลบ.ต่างชาติ -584.62 ลบ. TFEX +19,380 สัญญา ตราสารหนี้ +596.57 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 2.51 จุด +0.01% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.1% โดยทำสถิติขาขึ้นยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2560
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ +1.9% ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐและน้ำมันดิบโลกปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะตึงตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
+ สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีนระบุว่า ปริมาณเที่ยวบินรายวันในจีนในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ดีดตัวกลับขึ้นสู่ 89% ของระดับในปี 2562
+ โฆษกกระทรวงแรงงาน ยืนยันกองทุนประกันสังคมไม่ล้ม มีเงินสะสม 2.3 ล้านล้านบาท
+ หุ้นกลุ่มธนาคารรายงานผลการดำเนินงานงวด 1H66 1.22 แสนล้านบาท +15%YoY
ปัจจัยลบ
- ตลาดจับตาผลกระทบของการที่อินเดียประกาศยุติการส่งออกข้าวโดยมีผลบังคับใช้ในทันที เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาข้าวภายในประเทศที่ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าว
- รัสเซียเพิ่มความรุนแรงในทะเลดำระดมโจมตีทางอากาศใส่ท่าเรือยูเครนหลายแห่งติดต่อกัน ส่งผลให้ราคาธัญพืชโลกปรับเพิ่มขึ้น
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-21 ก.ค. 2566 แยกเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 45,729.20 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 5,600.10 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 115,681.14 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 75,552.03 ล้านบาท
- การเมืองในประเทศยังไม่มีเสถียรภาพยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ มวลชนรวมตัวแยกอโศกมนตรีต้าน สว.ไม่โหวตหนุนจัดตั้งรัฐบาล
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี อีกครั้งวันที่ 27 ก.ค. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูง พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,520-1,535 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ค่าระวางเรือขึ้นจากคลองปานามา หุ้นได้ประโยชน์ PSL TTA RCL
• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
หุ้นรายงานพิเศษ
AUCT "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 12.10 บาท
•คาดแนวโน้มกำไร 2Q66 ราว 69 ลบ. +55%YoY -28%QoQ เติบโตแกร่ง YoY จากแนวโน้มปริมาณรถยึดที่เพิ่มขึ้น ตาม NPL ที่เร่งขึ้น และการปรับค่าบริการรถยนต์ 4 ล้อ 6 ล้อ และบิ๊กไบค์ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน แต่หดตัว QoQ เนื่องจากผลของปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดยาว ประกอบกับ 1Q66 มีรายได้จากการจัดงานประมูลพิเศษของ กสทช. ราว 15-20 ลบ. โดยคาดกำไร 1H66 คิดเป็น 55% ของประมาณกำไรทั้งปี 66 ที่ราว 300 ลบ.
•เราประมาณการรายได้และกำไรทั้งปี 66 ราว 1,033 ลบ. +9%YoY และ 300 ลบ. +19%YoY ตามลำดับ มีปัจจัยหนุนการเติบโตหลัก 2 ประการ คือ 1) แนวโน้ม %NPL ของรถยนต์ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มปริมาณรถยึดจะยังคงไหลเข้าลานประมูลต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนการขยายลานสต็อกและจุดรับสินค้าเพิ่ม 10 แห่งในปีนี้ ซึ่งช่วง 1Q66 ขยายแล้ว 2 แห่ง และช่วง 2Q66 จะขยายอีก 3-5 แห่ง ส่วนที่เหลือจะทยอยขยายในช่วงครึ่งปีหลัง และ 2) ได้ผลบวกจากการปรับค่าบริการรถยนต์ 4 ล้อ 6 ล้อ และบิ้กไบค์ ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน โดยเราประเมินราคาเหมาะสมปี 66 ราว 12.10 บาท มีอัพไซต์กว่า 24% ประกอบกับจ่ายปันผลในอัตราราว 4-5% ต่อปี จึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) INET (Bloomberg consensus 6.00 บาท) มองครึ่งปีหลังผลงานฟื้นตัว ลุยตลาด Enterprise Cloud สำหรับลูกค้าองค์กร โอกาสปีนี้โต 30-40% ชี้เป็นกลุ่มไฮมาร์จิ้น รองรับความต้องการของลูกค้า มั่นใจรายได้จะทำได้ราว 2.1-2.2 พันล้านบาท พร้อม IDC3 Phase 2 เข้ากองทุนไตรมาส 4/2566 ตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CPAXT (Bloomberg consensus 41.00 บาท) ลุยครึ่งปีหลัง ส่ง "แม็คโคร" และ "โลตัส" เดินหน้าขยายและเปิดรูปแบบสาขาใหม่ ตั้งเป้าขยายแม็คโคร 8-12 สาขา และขยายไฮเปอร์มาร์เก็ต 3-4 สาขา ส่วนโลตัสซูเปอร์มาร์เก็ตในไทยและมาเลเซียจะเปิด 10-14 สาขา รวมถึงโลตัส โกเฟรช ที่จะเปิดในไทยปีนี้ 120-150 สาขา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AKR (Bloomberg consensus - บาท) ลุยคว้างาน EPC เติมพอร์ตในช่วงครึ่งหลังปีเพิ่ม แย้มมีโปรเจ็กต์อยู่ระหว่างพิจารณามากกว่า 500 ล้านบาท เบื้องต้นคาดหวังได้งานไม่น้อยกว่า 200-300 ล้านบาท ด้านหม้อแปลงไฟฟ้ายังมีแนวโน้มที่ดี จ่อประมูลงาน กฟภ.-กฟน. กว่า 3 พันล้านบาท คาดหวังแบ่งเค้ก 10-12% พร้อมเดินหน้าขยายฐานต่างแดนต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) FTE (Bloomberg consensus - บาท) บอสใหญ่ FTE "ทักษิณ ตันติไพจิตร" ส่งซิก Q3/2566 ผลงานโตต่อเนื่อง ปริมาณงานใหม่เข้ามามากขึ้น จากภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มดีเป็นตัวเร่งขึ้นมีการลงทุนและก่อสร้าง ส่งผลต่อความต้องการระบบดับเพลิง ล่าสุดรับงานเพิ่ม 137 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ยาวไปถึงปี 2568 หนุนงานในมือปัจจุบันที่มีอีกกว่า 450 ล้านบาท ลั่นปี 2566 รายได้เติบโต 10% ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)