วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เลือกลงทุนรายตัว

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เลือกลงทุนรายตัว

ยังติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่น่าจะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มบริโภคในประเทศ การแถลงนโยบายของรัฐบาลวันแรก ไม่ได้ให้ความชัดเจนที่มากนักในหลายประเด็น อาทิ จะนำเงินจากไหนมาใช้ในการดำเนินโครงการ Digital Wallet

ขณะที่รถฟ้า 20 บาทจลอดสาย เริ่มดำเนินการเฉพาะสายสีแดงและม่วงที่อยู่ภายใต้รฟท. แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการทั้งระบบในส่วนที่เอกชนน่าจะเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม ต่อเนื่องไปจนการประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้เรายังคาดการประกาศนโยบายเร่งด่วนในการลดค่าครองชีพ อาทิ การปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันและค่าไฟ จะสนับสนุนกำลังซื้อในประเทศ โดยรวมน่าจะหนุนจิตวิทยาหุ้นที่เน้นการบริโภคในประเทศ (Domestic play) โดยหุ้นที่เราชอบได้แก่ CAPXT, CRC, ZEN (Not rated) สำหรับกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน PTG, OR ช่วงสั้นอาจตอบรับเชิงลบจากนโยบายลดราคาขายปลีกน้ำมัน แต่จะเป็นโอกาสทยอยสะสมรับผลการดำเนินงานที่จะฟื้นตัวใน่วงไตรมาส 4/66

ติดตามการแข็งค่าของเงินเยนและเงินเฟ้อสหรัฐฯ 13 ก.ย. ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับความผันผวนของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง เงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังตลาดประเมินเริ่มเห็นโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจต้องปรับการดำเนินนโยบายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้นักลงทุนที่กู้ยืมเงินเยนไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง อาจต้องเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและคืนเงินกู้สกุลเยน (Unwind Yen Carry Trade) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ขณะที่ในระยะสั้นกว่านั้น ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ 13 ก.ย. ซึ่ง Bloomberg concensus คาดเงินเฟ้อ ส.ค. ที่ +0.6% MoM และ +3.6% YoY จากตัวเลข ก.ค.ที่ +0.2% และ +3.2% ซึ่งหากเงินเฟ้อไม่สูงเกินคาด ตลาดน่าจะมีมุมมองเชิงบวกต่อการตรึงดอกเบี้ยยาว ซึ่งจะบวกกับสินทรัพย์เสี่ยงและบรรยากาศลงทุน
 

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดปรับฐานสู่แนวรับ 1,540-1,550 จุด ซึ่งเป็นระดับที่มีโอกาสลุ้นฟื้นตัว กลุ่มที่น่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง ได้แก่ พลังงาน ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ 3) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้นเด่นที่เราชอบในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ได้แก่ PTTEP, TOP, PTG, OR / CPAXT, TIDLOR / AOT, AWC, SPA / CPN, AP

หุ้นแนะนำ: TRUE*, CRC*, MENA*, SORKON*

แนวรับ: 1,540 / แนวต้าน : 1,560 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

เยลเลนมั่นใจเศรษฐกิจสหรัฐซอฟต์แลนดิ้ง - โดยเชื่อว่า สหรัฐจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้โดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดแรงงาน พร้อมกับแสดงความพอใจเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และอัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.

EGCO ปิดดีลคัมแพซ – เซ็นสัญญาซื้อหุ้น 3 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในสหรัฐอเมริกา กำลังผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ ผู้บริหารมั่นใจรับรู้รายได้ทันทีปีนี้ มีโอกาสจ่ายปันผลพิเศษเพิ่ม ล่าสุดประกาศขึ้น XD วันที่ 14 ก.ย.นี้ จ่ายอัตรา 3.25 บาทต่อหุ้น 

AIS ฮุบคลื่นจาก NT –  รับโอนคลื่น 700 MHz มูลค่า 14,866 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพให้บริการ 5G มากขึ้น พร้อมผูกสัญญาค่าบริการ Roaming ยาวถึง 13 ปี คาด AIS จะได้ประโยชน์จากต้นทุนลดลง และคลื่นในมือมากขึ้นสู้คู่แข่งอย่าง TRUE ได้อย่างเต็มที่

GPSC โปรเจ็กต์เพียบ ฝ่าด่านลดค่าไฟฟ้าได้ - มั่นใจธุรกิจโรงไฟฟ้าครึ่งปีหลัง 2566 เติบโต รับมีโครงการขยายเพียบ รุกพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ลุยตลาดอินเดีย ไต้หวัน เดินหน้าขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี เล็งเพิ่มเป้าเกิน 5GW มองดีมานด์เติบโต รอความชัดเจนประเด็นลดค่าไฟ โบรกมองราคารับรู้เซ็นทิเมนต์เชิงลบ พื้นฐานกำไรยังดี

SINO เคาะราคา IPO - กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ 1.40 บาท/หุ้น คิดเป็น P/E ที่ 6.90 เท่า เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อ 13-15 ก.ย.นี้ พร้อมเข้าเทรดในตลาด SET วันที่ 20 ก.ย. นี้ 

 

ประเด็นติดตาม: 12 ก.ย. ประชุมครม.นัดแรก / 13 ก.ย.– US CPI/ 14 ก.ย.- ECB Interest Rate Decision, US PPI, Retail Sales/ 15 ก.ย. - CH Industrial Production / 18-24 ก.ย. BOI โรดโชว์พบนักลงทุนสหรัฐฯ /27 ก.ย. ประชุม กนง. ซึ่งธปท.จะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ลง

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)