เวสต์เทกซัส 86.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 88.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (10 ต.ค. 66) ราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งขึ้นกว่า 4% หลังความขัดแย้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพุ่งขึ้นอีกกว่า 4% หลังตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง จากการปะทะกันทางทหารระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งอาจจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งในวงกว้าง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความตึงตัวด้านอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง
+ ผลกระทบของความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ แม้ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรอยู่ก็ตาม โดยหากสหรัฐฯ มองว่าอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีของกลุ่มฮามาส อาจทำให้อิหร่านต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ ยอดผลิตน้ำมันของอิหร่านเพิ่มขึ้นกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 0.18% สู่ระดับ 106.24 หลังนักลงทุนพากันถือดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในจีนที่ดีขึ้นจากช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังคงถูกกดดันจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะลดลงจากปัญหาอุทกภัยในหลายเมืองสำคัญ
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการที่ตลาดกังวลด้านอุปทานน้ำมันในแถบตะวันออกกลาง หลังเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงถูกกดดันจากการกลับมาส่งออกน้ำมันดีเซลอีกครั้งของรัสเซียภายหลังการยกเลิกห้ามส่งออกน้ำมัน ซึ่งอาจทำให้อุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้น