วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การจ้างงานสหรัฐฯ เพิ่มความเสี่ยงต่อขาขึ้นของเงินเฟ้อ
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวต้าน 1,414/1,420 จุด (EMA 5 สัปดาห์) แนวรับ 1,399 จุด/1,393 จุด (EMA 10 วัน/5 วัน)/1,380 จุด
เรามองการปรับขึ้นของดัชนีฯ จากระดับต่ำสุด 1,366.19 จุด เมื่อวันที่ 27 ต.ค. เป็นเพียงการฟื้นตัวทางเทคนิคที่เข้าสู่ภาวะ Oversold มากเกินไป โดยสัญญาณเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น จะยืนยันต่อเมื่อทะลุ 1,428 จุด (EMA 25 วัน) และ 1,453 จุด (EMA 10 สัปดาห์) ด้วยวอลุ่มเหนือ 5 หมื่นล้านบาท
ประเด็นสำคัญวันนี้ ได้แก่
+3Q23 Earnings Results: จับตารายงานกำไร Alibaba (คาด USD15.29 Vs USD 12.92), BMW Germany (คาด EUR4.08 Vs EUR4.25) โดยคาดว่าจะมีผลต่อเนื่องไปยังหุ้นกลุ่มเทคฯ และกลุ่มยานยนต์
-US: การจ้างงานเดือน ต.ค. มีความเสี่ยงที่จะสูงกว่าตลาดคาดการณ์ สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อสูงตลอดช่วงที่เหลือปีนี้ Conensus คาดว่า การจ้างงานเดือน ต.ค. มีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ สอดคล้องกับคาดการณ์ 4Q23 GDP Growth ล่าสุดของ Fed Atlanta ที่คาดว่าจะเติบโตสูงถึง +2.3% QoQ Vs Consensus คาด +0.5% QoQ (Figure 1) อันจะส่งผลให้ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ทำให้คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค. จะสูงกว่าคาดการณ์ที่ +188k (แต่อาจลดลงเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. ที่สูงถึง +336k ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 8 เดือน) และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง คาดปรับสูงขึ้น +0.3% MoM (จาก +0.2% MoM) KTX คาดว่าการขยายตัวของ GDP และการจ้างงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด ทำให้อัตราเร่งรายเดือนของเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีโอกาสสูงที่จะเติบโตเท่ากับค่าเฉลี่ย 9M23 ที่ +0.3% MoM ในช่วงเวลาที่เหลือของปี ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสิ้นปี 2023 อยู่ที่ 4.7% YoY และอัตราเงินเฟ้อระยะยาวจะค้างอยู่ที่ 3.9% YoY ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของเฟด ที่ 2.0% มาก (Figure 1)
+US: รายงานภาคบริการเดือน ต.ค. คาดว่ายังคงอยู่ในระดับขยายตัว Consensus คาดว่าปรับลดลงเล็กน้อย โดย ISM คาดว่าจะอยู่ที่ 53 (Vs 53.6 ในเดือน ก.ย.) และ S&P Global Service PMI เดือน ต.ค. คาดเพิ่มขึ้นเป็น 50.9 (Vs เดือน ก.ย. 50.1) อย่างไรก็ดี ระดับที่สูงกว่า 50 จุด ซึ่งยังคงอยู่ในระดับขยายตัว สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 4Q23E มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง อิงภาคบริการมีสัดส่วนประมาณ 2/3 ของ GDP
+/-China: รายงานภาคบริการเดือน ต.ค. จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ โดย Consensus คาดปรับตัวดีขึ้นเป็น 50.4 (Vs 50.2 ในเดือน ก.ย.) ส่งผลดัชนีรวมภาคการผลิตและบริการเดือน ต.ค. สูงขึ้นเป็น 51 (Vs จากเดิม 50.9) ซึ่งสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัวเล็กน้อย และคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการอัดฉีด เม็ดเงิน 5 แสนล้านหยวนหรือ 0.4% ของ GDP (จากทั้งหมด 1 ล้านล้านหยวน หรือ 0.8% ของ GDP) เข้าสู่เศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือจาก ความเสียหายน้าท่วมของหลายมณฑลและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิมเติม
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มอิงเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว SPA PTTGC TOP
Strategic daily picks
SPA ปิด 11.90 บาท/แนวรับ 11.20 บาท แนวต้าน 12.70 บาท
ทิศทางธุรกิจใน 3 เดือนสุดท้ายของปี 2023 คาดดีต่อเนื่องจากทุกๆ ไตรมาส เพราะไตรมาส 4 เป็น high season ของการท่องเที่ยว อีกทั้งบริษัทวางแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติมจาก 3Q23 ทั้งนี้ บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ปี 2023 เพิ่มเป็น 1.4 พันล้านบาท (จากต้นปี 2023 ตั้งเป้าที่ 1.1 พันล้านบาท และ 1H23 ทำได้ 700 ล้านบาท) Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 235 ล้านบาท และมูลค่าเหมาะสมที่ 14.31 บาท
PTTGC ปิด 35.75 บาท/แนวรับ 34.50 บาท แนวต้าน 38.00 บาท
คาดธุรกิจปิโตรเคมีผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q23 แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี ถึงจะเห็นการฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยในส่วนของบริษัทจะให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนให้แข็งแกร่ง และขยายธุรกิจไปยังธุรกิจใหม่ที่เป็นคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) เช่นเดียวกับการเข้าซื้อ Allnex Holding GmbH (Allnex) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 4.48 พันล้านบาท และมูลค่าเหมาะสมที่ 39.58 บาท
TOP ปิด 47.50 บาท/แนวรับ 46.00 บาท แนวต้าน 49.75 บาท
KTX ให้ราคาเป้าหมายที่ 61.70 บาทและคาดกำไรสุทธิ 3Q23E เป็นไตรมาสดีสุดของปีที่ 10.2 พันล้านบาท (+87 เท่า YoY, +8.1 เท่า QoQ) หนุนจากกำไรจากการดำเนินงาน และคาดมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 8.1 พันล้านบาท แม้คาดจะมี forex loss 716 ล้านบาท และ hedging loss 4.5 พันล้านบาท (รวม unrealized hedging loss 3.5 พันล้านบาท)