วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ วันนี้ติดตาม GDP ไตรมาส 3/66 พรุ่งนี้ครม.พิจารณา TESG
ติดตามการรายงาน GDP ไตรมาส 3/66 ของไทย วันนี้สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 3/66 ตลาดคาด +1.3% QoQ และ +2.2% YoY ดีขึ้นจากไตรมาส 2/66 ที่ +0.2% QoQ และ +1.8% YoY แต่ยังเป็นการขยายตัวที่ต่ำ
จากปัจจัยการเปลี่ยนผ่านการเมืองทำให้การใช้จ่ายภาครัฐชะลอ และผลกระทบจากภัยแล้ง แม้มีความไม่แน่นอนของการรายงานตัวเลข GDP อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าโมเมนตัมของไตรมาส 4/66 ที่น่าจะดีขึ้นต่อเนื่องทั้งจากการท่องเที่ยว การบริโภคตามฤดูกาล และการใช้จ่ายงบประมาณที่จะเริ่มเดินหน้าได้เต็มที่ จะเป็นปัจจัยลุ้นให้ตลาดตอบรับเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจรอบนี้ ซึ่งหากตัวเลข GDP ออกมาในระดับตามคาดหรือดีกว่าคาด ประเมินกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีโอกาสปรับตัวขึ้นช่วยต่อบรรยากาศลงทุนในระยะสั้น
ยังอยู่ในช่วงที่ตลาดเลือกหลับตากับผลประกอบการ การฟื้นตัวของ SET Index ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มที่ฟื้นแรงเป็นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า การเงิน และหุ้นที่ตลาดมีการถือครองต่ำ (Underowned) ขณะที่หุ้นที่ถูกขายทำกำไร จะอย่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่าตลาดมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร ท่องเที่ยว การแพทย์เป็นต้น เราประเมินจนถึงการประชุมเฟด 13 ธ.ค. 66 ตลาดหุ้นจะยังอยู่ในภาวะเชิงบวกที่ไม่สนใจต่อแนวโน้มผลประกอบการ ซึ่งทำให้หุ้นหลายๆตัวที่ฟื้น อาจไม่ได้อิงแนวโน้มพื้นฐานหรือผลประกอบการ การเก็งกำไรหุ้นเหล่านี้สามารถทำได้ แต่ควรกำหนดจุดทำกำไรและตัดขาดทุน ขณะที่ในเชิงการลงทุนระยะกลาง ยังเน้นหุ้นในกลุ่มที่ Valuation ไม่แพง มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และมีการจ่ายปันผลที่สูงกว่า 4% ขึ้นไป โดยหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ PTT, OR, ESSO, MAJOR, TU, ADVANC (ส่วนใหญ่จะมีเงินปันผล > 4%) และ BDMS, SCGP, EA เป็นต้น / การเก็งกำไรอาจเน้นหุ้นที่ลงมาเยอะในกลุ่มไฟฟ้า ปิโตรเคมี และการเงิน แต่ต้องเพิ่มความระวังความเสี่ยงผลประกอบการในไตรมาสหน้า จึงเน้นเก็งกำไรแบบตัดขาดทุนภายในระยะ 2-4 สัปดาห์เท่านั้น / หุ้นเก็งกำไรอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ CPF, TU, SCGP, GFC
ภาพรวมกลยุทธ์ ลุ้น GDP ออกมาดี สนับสนุนการฟื้นตัวของตลาด คาดบรรยากาศเก็งกำไรรายตัวยังเป็นบวก และคงประเมินภาพใหญ่ตลาดช่วงปลายปีต่อต้นปีฟื้น จากเงินเฟ้อชะลอ กดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง บวกต่อการฟื้นตัวของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง
หุ้นแนะนำ: KBANK, CBG, MENA*, SCGP*
แนวรับ: 1,400 / แนวต้าน : 1,425-1,435 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
จับตา สศช. แถลง GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวต่ำ เล็งหั่นเป้าทั้งปี 66 - สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมแถลงข่าวรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ของปี 2566 และแนวโน้มปี 2566-2567 โดยต้องติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวไปในทิศทางใด (ฐานเศรษฐกิจ)
สหรัฐรอดชัตดาวน์แล้ว หลัง "ไบเดน" ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว ส่งผลให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ (อินโฟเควสท์)
จีนจ่อผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่สุดของโลกในปีนี้ - เมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน รายงานว่า จีนจะกลายเป็นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกภายในปี 2566 อย่างแน่นอน ขณะปริมาณการส่งออกยานยนต์ของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.ปีนี้สูงแตะ 3.9 ล้านคัน (อินโฟเควสท์)
งัดไม้ตาย ‘ช้อปช่วยไทย’ กระตุ้นเศรษฐกิจ 45 วัน – รัฐบาลผุด “ช้อปช่วยไทย” เวอร์ชั่น e-Refund กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีเป็น 50,000 บาท ให้คนที่พลาดเงินดิจิทัล 10,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.-15 ก.พ.67 กลุ่มทุนค้าปลีก ชี้ “e-Refund” ไม่ตอบโจทย์ (ฐานเศรษฐกิจ)
ประเด็นติดตาม: 20 พ.ย. – TH GDP, US 20-Year Bond Auction/ 21 พ.ย. - US Existing home sales / 22 พ.ย. - US Core durable good orders / 24 พ.ย. - US Services PMI / 27 พ.ย. - US New Home Sales
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)